- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 15 July 2014 23:21
- Hits: 3429
พาณิชย์รับลูกคสช.ออกมาตรการดันราคาข้าวเปลือกไม่ต่ำกว่า 8,500 บาท/ตัน
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ รักษาการอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เตรียมออกมาตรการรักษาระดับราคาข้าวเปลือกนาปีปี 57/58 ซึ่งผลผลิตจะออกมาในช่วงเดือน พ.ย.นี้ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ต้องการให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ในระดับราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 8,500 บาท เพื่อให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่เหมาะสม
มาตรการดังกล่าวจะใช้สำหรับดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้าหากมีแนวโน้มราคาอ่อนตัวลงมา โดยจัดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือก นำโรงสีมาซื้อข้าวเปลือกกับเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าว รวมทั้งจะให้โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกในราคานำตลาดตันละ 100-200 บาท ในช่วงเดือน พ.ย.57-ม.ค.58 และเก็บรักษาสต๊อกไว้ 3-6 เดือน หรือตั้งแต่เดือน พ.ย.57-ก.ค.58
"เพื่อเป็นการดึงผลผลิตข้าวส่วนเกินออกจากตลาดมาเก็บไว้ และขายในเวลาที่เหมาะสม และไม่ทำให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซึ่งโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ รัฐจะช่วยเหลือด้วยการชดเชยดอกเบี้ยผ่านธนาคารพาณิชย์ที่โรงสีเป็นลูกค้าตามมูลค่าข้าวเปลือกที่รับซื้อมาในอัตรา 3% ต่อปีนับตั้งแต่วันที่กู้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้"นางจินตนา กล่าว
นางจินตนา ยืนยันว่า รัฐจะไม่มีมาตรการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกมาเก็บเป็นสต๊อกไว้เองแน่นอน เพราะมองว่าภาครัฐไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลสต๊อกข้าวให้ได้คุณภาพ เห็นได้จากการเก็บสต๊อกข้าวจำนวนมากในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นต้องใช้กลไกของเอกชนดำเนินการจะดีกว่า ซึ่งภาคเอกชนทั้งโรงสี ผู้ส่งออก และพ่อค้าข้าวทั่วไปมีศักยภาพที่จะซื้อข้าวมาเก็บไว้ก่อน พร้อมกันนี้จะให้มีการตรวจสอบสต๊อกข้าวของผู้ส่งออกข้าวตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ที่กำหนดให้ผู้ส่งออกต้องสำรองสต๊อกข้าวไม่ต่ำกว่า 500 ตัน ซึ่งน่าจะช่วยยกระดับราคาข้าวเปลือกในตลาดให้ดีขึ้นได้ แต่คงไม่เพิ่มสำรองสต๊อกข้าวของภาคเอกชนให้มากกว่านี้ เพราะจะเป็นภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการมากเกินไป
"ข้าวฤดูกาลใหม่คงจะเข้ามาดูแลเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า ส่วนข้าวหอมมะลิจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะมีปริมาณไม่มาก และน่าจะขายได้ราคาดี โดยนโยบายของ คสช.คือให้ชาวนามีรายได้ที่มีความสุข แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็ไม่มีปัญหาเหมือนอดีตที่ผ่านมา" นางจินตนา กล่าว
อินโฟเควสท์