- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 15 July 2014 19:32
- Hits: 3011
พณ.แจงส่งออกไทยไปอียูโตกว่า 6%
บ้านเมือง : นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี รายงานการเข้าหารือกับสหพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมประมงและผู้ค้าส่งอาหารทะเล (BVFI) กรณีไทยถูกกล่าวหาใช้แรงงานทาสในเรือประมงว่า สหพันธ์ฯ ได้แนะไทยใช้เวทีการประชุมใหญ่ที่เมืองฮัมบูร์ก กับสมาชิกในวงการราว 90 ราย ประกอบด้วยผู้ประกอบการด้านอาหารทะเล ผู้นำเข้าและห้างค้าปลีก เพื่อให้ข้อมูล สร้างความเข้าใจและประสานงานเรื่องต่างๆ
น.ส.ณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรุงเบอร์ลิน กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ยังขยายตัวได้ 6.4% โดยเฉพาะเยอรมนี คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มอีกจากปีก่อนที่ส่งออกได้ 4,067 ล้านเหรียญสหรัฐ (12.7%) ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ ส่งออกเพิ่มขึ้น 14.8% หรือมีมูลค่า 1,836 ล้านเหรียญสหรัฐ (59,181 ล้านบาท ขยายตัว 25.8%) ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศขนาดเล็กอื่นๆ ในยุโรปที่พึ่งพาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศหลัก
ทั้งนี้ ภาพรวมสหภาพยุโรป (อียู) เริ่มนำเข้าไก่สดเพิ่มขึ้นมาเป็นอันดับ 5 เพิ่มขึ้นราว 23% คิดเป็นมูลค่า 392 ล้านเหรียญสหรัฐ (980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3%) เชื่อว่าผู้นำเข้าต้องใช้เวลาปรับคำสั่งซื้อจากเดิมที่ไปพึ่งไก่สดจากบราซิล ส่วนสินค้ากุ้งน่าเป็นห่วงมาก ยังประสบปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (EMS) สินค้าไทยส่งออกมาเยอรมนี อันดับแรกได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่มขึ้น 24.8% มูลค่า 1,064 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง และผลิตภัณฑ์ยาง
สำหรับ การส่งออกสินค้าไทยไปอียูในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ ส่งออกเพิ่มขึ้น 6.4% หรือมีมูลค่า 8,752 ล้านเหรียญสหรัฐ (282,165 ล้านบาท ขยายตัว 16.6%) สินค้าส่งออกสูงสุดยังเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่มขึ้น 25% คิดเป็นมูลค่า 1,064 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเป็น อัญมณีและเครื่องประดับ 660 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.5% เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบเพิ่มขึ้น 26% มูลค่า 443 ล้านเหรียญสหรัฐ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 27% ล้านเหรียญสหรัฐ 418 ไก่แปรรูป 23% ล้านเหรียญสหรัฐ 392 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น
สินค้านำเข้าลดลง 16.3% คิดเป็นมูลค่า 7,887 ล้านเหรียญสหรัฐ (257,158 ล้านบาท ลดลง 8.5%) สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ลดลง 1.5% มูลค่า 1,598 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเป็นสินค้าเคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น