- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 19 March 2016 22:29
- Hits: 3178
พาณิชย์ จี้ทอท.แก้ปัญหาน้ำดื่ม-อาหารในสนามบินแพง เล็งเจรจาให้ลดราคา
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือทอท. เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำดื่มและอาหารในสนามบินมีราคาแพงว่า ได้ขอความร่วมมือ ทอท.ให้ช่วยประสานไปยังผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำดื่มในสนามบินปรับลดราคาจำหน่ายลง โดยให้ใช้เกณฑ์ราคา 7-10 บาทต่อขวดสำหรับขนาด 500 ซีซี ซึ่งเป็นราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนด ซึ่ง ทอท.ได้รับที่จะไปดำเนินการให้ แต่จะดำเนินการได้เฉพาะในส่วนของพื้นที่สนามบินที่อยู่ก่อนการเช็คอินเข้าไป
ส่วนน้ำดื่มที่จำหน่ายภายในสนามบิน หลังจากที่ผู้โดยสารได้เช็กอินเข้าไปแล้ว ทอท.แจ้งว่าได้เปิดประมูลให้ผู้ประกอบการเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่ง ทอท.จะประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อขอให้แจ้งผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลง โดยกรมฯ ได้เสนอตัวเลขเบื้องต้นที่ 10-12 บาทต่อขวด แต่จะจำหน่ายได้ราคานี้หรือไม่ต้องรอผลที่ ทอท.จะหารือกับผู้ประกอบการก่อน
"เรื่องน้ำดื่มมีราคาแพง กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูงเกินไปจริง จึงได้เชิญ ทอท.ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินมาหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และคาดว่าน่าจะมีทางออกที่ดี" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับ ราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จนั้น ทอท.ได้แจ้งว่า มีร้านสวัสดิการที่จำหน่ายราคาถูกอยู่ เพียงแต่ประชาชนไม่ค่อยรู้ ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้รับรู้มากขึ้น และจะเพิ่มจุดจำหน่ายให้มากขึ้นด้วย ส่วนด้านในหลังจากเช็คอินเข้าไปแล้วได้ขอความร่วมมือให้เพิ่มอาหารเมนูไม่เกิน 35 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่เดินทางได้เลือกบริโภค
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายน้ำดื่มและอาหารในสนามบินดอนเมือง โดยได้เชิญกรมฯ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งอาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องราคาน้ำดื่มที่จำหน่ายในสนามบิน เพราะน้ำดื่มบรรจุขวดถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในส่วนของน้ำแร่เป็นน้ำทางเลือก กรมฯ จะไม่เข้าไปยุ่ง ให้เป็นส่วนที่ผู้บริโภคจะต้องตัดสินใจที่จะเลือกบริโภคเอง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของน้ำดื่มนั้น กรมฯ สามารถใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เข้าไปดูแลได้ แต่ยังไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น เพราะหากสามารถเจรจากันได้ ก็จะใช้วิธีการเจรจาก่อน
อินโฟเควสท์
บีบ'น้ำดื่ม'สนามบินลดราคาลุ้นทอท.ให้คำตอบ 22 มี.ค.ประปายันแล้งนี้'ไม่ขาด'
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์จี้ ทอท.แก้ปัญหาน้ำดื่มในสนามบินแพง ด้านนอกต้องขายไม่เกินขวดละ 7-10 บาท ส่วนด้านในหลังเช็กอินไปแล้ว ยื่นข้อเสนอขวดละ 10-12 บาท ลุ้นคำตอบ 22 มี.ค.นี้ ด้าน กปน.-กปภ.ยันแล้งนี้ ป้อนน้ำผลิตน้ำดื่ม น้ำใช้ได้ไม่ขาดแคลนแน่
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังหารือกับตัวแทน บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำดื่มและอาหารในสนามบินมีราคาแพง ว่า ได้ขอความร่วมมือ ทอท.ให้ช่วยประสานให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำดื่มในสนามบิน ปรับลดราคาจำหน่ายน้ำดื่มลงมา โดยให้ใช้เกณฑ์ราคา 7-10 บาทต่อขวด สำหรับขนาด 500 ซีซี ซึ่งเป็นราคาแนะนำที่กรมกำหนดสำหรับการจำหน่ายน้ำดื่มทั่วไป ซึ่ง ทอท.ได้รับที่จะไปดำเนินการให้ แต่จะดำเนินการได้เฉพาะในส่วนของพื้นที่สนามบินที่อยู่ก่อนจะเช็กอินเข้าไป
ส่วนน้ำดื่มที่จำหน่ายภายในสนามบิน หลังจากที่ผู้โดยสารได้ทำการเช็กอินเข้าไปแล้ว ทอท.แจ้งว่าได้เปิดประมูลให้ผู้ประกอบการเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่ง ทอท.จะไปประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อขอให้แจ้งผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ ปรับลดราคา จำหน่ายน้ำดื่มลง โดยกรมได้เสนอตัวเลขเบื้องต้นที่ 10-12 บาทต่อขวด แต่ต้องรอผลที่ ทอท.จะไปหารือกับผู้ประกอบการก่อน
"เรื่องน้ำดื่มมีราคาแพง กรมได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจำหน่ายในราคาสูงเกินไปจริง จึงได้เชิญ ทอท.มาหารือ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา และคาดว่าน่าจะมีทางออกที่ดี" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
สำหรับ ราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ทอท.ได้แจ้งว่า มีร้านสวัสดิการที่จำหน่ายอาหารราคาถูกอยู่ เพียงแต่ประ ชาชนไม่ค่อยรู้ ซึ่งจะได้มีการ ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้รับรู้มาก ขึ้น และจะเพิ่มจุดจำหน่ายให้มากขึ้นด้วย ส่วนด้านในหลังจากเช็กอินเข้าไปแล้ว ได้ขอความร่วมมือให้เพิ่มอาหารเมนูไม่เกิน 35 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่เดินทางได้เลือกบริโภค
น.ส.วิ บูลย์ลักษณ์กล่าวว่า ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเดินทางไปตรวจสอบสถาน การณ์การจำหน่ายน้ำดื่มและอาหารในสนามบินดอนเมือง โดยได้เชิญกรมและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งอาจจะได้คำตอบ ที่ชัดเจนในเรื่องน้ำดื่มที่จำ หน่ายในสนามบินวันนั้นก็ได้ว่าราคาจะเป็นเท่าใด
สำหรับ การหารือกับการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อดูแลน้ำดื่มในช่วงหน้าแล้ง ได้รับการยืนยันจาก กปน.และ กปภ. ว่าสามารถจ่ายน้ำให้กับผู้ผลิตน้ำดื่มได้อย่างเพียงพอจนสิ้นฤดูแล้ง หรือนานสุดถึงประมาณเดือน ก.ค.2559 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นการสร้างความ มั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้น้ำว่าหน้าแล้งปีนี้ประเทศ ไทยจะไม่มีปัญหาการขาด แคลนน้ำดื่มและน้ำใช้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
พาณิชย์ คุมเข้มสินค้ากันขาดแคลนช่วงแล้ง
แนวหน้า : นายสมชาติ สร้อยทอง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด โดยได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดรายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยได้ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ภัยแล้ง 22 จังหวัด ดำเนินการจัดหาเชื่อมโยงตลาด แหล่งรับซื้อ ประสาน ผู้ประกอบการในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ช่วยเหลือสร้างรายได้ให้เกษตรกร และการให้ความรู้เกษตรกร รวมถึง ได้จำหน่ายสินค้าธงฟ้าช่วยภัยแล้ง ใน 22 จังหวัด รวม 400 ครั้ง ตั้งแต่ พ.ย. 2558-เม.ย. 2559 ซึ่งหลังจากสิ้นสุดโครงการกระทรวงพาณิชย์จะหารือต่อถึงความเหมาะสมในการจัดงานธงฟ้าช่วยภัยแล้งเพิ่มเติม
สำหรับ การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าช่วยภัยแล้งตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึง 15 มี.ค. 2559 ดำเนินการแล้ว 301 ครั้ง ยอดจำหน่ายสินค้ารวม 34.61 ล้านบาท สามารถช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้ 139,743 คน มูลค่า 23.07 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะติดตามสถานการณ์ตลาดสินค้าเกษตร และราคาสินค้าเกษตร เนื่องจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อผลผลิตสินค้าเกษตรให้ปริมาณ และคุณภาพไม่เป็นไปตามที่ควรเป็น ทั้งในส่วนของข้าว พืชไร่ และผลไม้ต่างๆ ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงหน้าร้อน ขณะที่ผักสด ตอนนี้แหล่งเพาะปลูกใหญ่ๆ สำคัญ เช่น เพชรบุรี ราชบุรี ยังคงสามารถเพาะปลูกได้ปกติ แต่ต้องดูให้แหล่งน้ำมีเพียงพอ ส่วนในด้านปศุสัตว์ตอนนี้ยังไม่พบสถานการณ์ผิดปกติ ที่จะยังไม่สื่อว่าในอนาคตจะขาดแคลนสินค้า เพราะลูกหมู ลูกไก่ ยังมีอยู่
