WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gพล.ต.ต.ไกรบญ ทรวดทรง copyอคส.เล็งยกเลิกสัญญาขายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมให้ว.ธนทรัพย์หลังทำผิดสัญญา

   พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการ องค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส. ) เปิดเผยว่า อคส.เล็งยกเลิกสัญญาขายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมให้กับ บริษัท ว.ธนทรัพย์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลในปริมาณ 21,180 ตัน เพื่อนำไปผลิตปุ๋ยอินทรีย์นั้น หากยังไม่สามารถดำเนินการรับมอบส่วนที่เหลือได้ภายในวันที่ 29 มี.ค. นี้

    ปัจจุบัน ทางบริษัทถูกปรับเงินเป็นรายวัน เพราะยังไม่สามารถขนข้าวออกจากโกดัง หรือรับมอบข้าวได้ตามเป้าหมาย โดยที่ผ่านมาสามารถรับมอบข้าวไปได้เพียง 10,093 ตัน ยังเหลือค้างรับมอบอีก 7,096.5 ตัน มูลค่า 35.82 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ในวันนี้ อคส. ได้เชิญบริษัทผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวสารเสื่อมสภาพในสต๊อกรัฐบาล เพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ทั้ง 5 ราย ได้แก่  1.บริษัท วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป จำกัด 2.บริษัท เอส. พี. เอ็ม.อาหารสัตว์ จำกัด 3.บริษัท เจริญ กิมเฮงฮวด จำกัด 4.บริษัท ยูนิโกร อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 5.บริษัท ท็อป ฟีด มิลล์ จำกัด  รวมปริมาณ 140,603 ตัน มูลค่า 933 ล้านบาท มาชี้แจงทำความเข้าใจรายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงแผนการขนย้ายข้าวออกจากคลังสินค้า ก่อนลงนามในสัญญาซื้อข้าวกับ อคส.

    "การขนย้ายข้าวครั้งนี้ยังคงเข้มงวด และโปร่งใสเหมือนเดิม ถ้าผู้ชนะประมูลไม่ทำตามสัญญา เช่น ขนข้าวออกจากคลังไม่ทันตามกำหนดในสัญญาจะถูกปรับ 0.2% ของมูลค่าข้าว และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นค่าฝากเก็บข้าวในคลังด้วย รวมทั้งถ้านำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ไม่ได้นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมจริง จะถูกปรับอีก 25% และยังถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย" พล.ต.ต.ไกรบุญ กล่าว

         อินโฟเควสท์

อคส.ปั้น 2 โกดังเทียบเอเชียทีคถกสคร.ลุย-ธนารักษ์เร่งผุดบ้านมั่นคง

    ไทยโพสต์ * อคส.ลุยแผนหารายได้ เล็งเนรมิต 2 คลังสินค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็น "เอเชียทีค" แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เผยหากรัฐไฟเขียว เดินหน้าได้ทันที ด้านกรมธนารักษ์เตรียมนำที่ราชพัสดุสร้างบ้านมั่นคง รองรับประชาชนบริเวณริมคลองกรุงเทพฯ เร่งทำให้จบภายใน 3 ปี

    พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงแผนหารายได้ของ อคส.ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา อคส.ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มาหารือถึงแผนการหารายได้เพื่อเลี้ยงองค์กร โดย อคส.จะนำคลังสิน ค้า 2 แห่งคือ คลังสินค้าธน บุรี ใกล้สะพานกรุงเทพ และคลังสินค้าราษฎร์บูรณะ ใกล้ธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 แห่งติดริมแม่น้ำ เจ้าพระยา และไม่ได้ใช้ประ โยชน์อะไร มาปรับปรุงใหม่ โดยจะหาเอกชนเข้ามาร่วมทุน

   หากแผนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล น่าจะเริ่มดำเนินการได้ทันที และจะทำให้ อคส.มีรายได้เลี้ยงตัวเอง จากที่ผ่านมามีรายได้จากการดำเนินการรับจำนำสินค้าเกษตรตามนโยบายรัฐบาล และ เป็นผู้จัดหาอาหารสดให้กับกรม ราชทัณฑ์

    "ถ้าแผนการปรับปรุงคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งได้รับความเห็นชอบ และเริ่มดำเนินการได้ น่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชม และใช้จ่ายเงินซื้อสิน ค้า ถ้าได้รับความนิยม รัฐบาลจะให้ขยายไปทำในพื้นที่อื่นอีก เช่น ที่ราชพัสดุ และน่าจะเป็นแหล่งรายได้หลักของ อคส.ได้ในอนาคต" พล.ต.ต.ไกรบุญ กล่าว

    สำหรับ แผนปรับปรุงคลัง สินค้าทั้ง 2 แห่ง จะจัดสรรพื้นที่ในแต่ละคลังเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก จะทำเป็นแปลงสาธิต เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร ตามแนวพระราชดำริ ส่วนที่ 2 ทำเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตร โดยให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขายเช่นเดียวกับตลาดองค์การตลาดเพื่อเกษตร กร (อ.ต.ก.) และส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ธุรกิจให้เอกชนบริหารจัดการ ซึ่งจะทำให้เป็นเอเชียทีคแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

     นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ บริเวณริมคลองลาดพร้าว ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพ มหานคร เพื่อนำที่ราชพัสดุ สร้างบ้านมั่นคงให้กับประชา ชน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการรุกล้ำคลองสาธารณะ ว่าในปีนี้กรมตั้งเป้าส่งมอบที่ราช พัสดุเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการ ก่อสร้างบ้านมั่นคงอีกประมาณ 10 ชุมชน หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแผนในการจัดระเบียบคูคลองใหม่อีก 9 คลอง อาทิ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ เป็นต้น

    โดยที่ราชพัสดุที่เตรียมไว้ จะนำมาจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองตาม โครงการบ้านมั่นคงให้แล้วเสร็จ ภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2561 รวมทั้งสิ้น 74 ชุมชน ครอบคลุม 1.1 หมื่นครัวเรือน และจะมีประชาชนที่ได้รับประ โยชน์กว่า 6.48 หมื่นราย คาดใช้งบประมาณดำเนินการ 4.06 พันล้านบาท.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!