- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 12 March 2016 13:46
- Hits: 1503
พาณิชย์ เร่งยกระดับธุรกิจบริการสุขภาพ สร้างมาตรฐานเทียบเท่าสากล รองรับผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทั่วโลก
แนวหน้า : น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจ การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมมีแผน ในการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพ (ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ สปา และนวดเพื่อสุขภาพ) โดยแผนดังกล่าวจะเน้นการสร้าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ ธุรกิจบริการสุขภาพของไทย ให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
ทั้งนี้ เนื่องจากไทยมีความพร้อมและมีความได้เปรียบหลายด้าน เช่น คนไทยมีหัวใจรักบริการ ความสะดวกสบายในการรับบริการ ค่าใช้จ่ายในการให้บริการมีความเหมาะสม มีสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนที่หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เป็นต้น
นอกจากนี้ ไทยยังมีสถานบริการทางการแพทย์และสถานบริการสุขภาพที่หลากหลาย เช่น โรงพยาบาลขนาดใหญ่-เล็ก ศูนย์การแพทย์สาขาต่างๆ ธุรกิจนวดแผนไทยเพื่อการรักษาและการผ่อนคลาย ธุรกิจสปาไทยที่มีชื่อเสียง รวมถึงสถานบริการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น และจากความหลากหลายนี้ทำให้ธุรกิจบริการสุขภาพของไทย สามารถตอบโจทย์ผู้ที่รักสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกได้ครบทุกมิติ
ในอนาคตอันใกล้นี้ โลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนา แล้ว ผู้สูงอายุจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความต้องการด้านที่พำนักระยะยาว (Long Stay) ด้าน การรักษาพยาบาล และด้านการให้บริการดูแลผู้สูงอายุ จึงมีมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ได้ช่วยเกื้อหนุนให้การเติบโตด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ของไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสอันดีของไทย ที่จะใช้ธุรกิจบริการสุขภาพสร้างรายได้เข้าประเทศมากขึ้น และยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางหรือฮับบริการสุขภาพ ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ กรมจึงได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหาร จัดการธุรกิจบริการสุขภาพในเชิงลึก ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจบริการสุขภาพของไทย เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน รวมถึงให้เข้าใจถึงสภาพปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งให้คำแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาโดย ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริการสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้ทำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ มุมมองในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดในแก่ธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการบริการสุขภาพของไทยสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดระดับประเทศและตลาดสากล
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมได้ดำเนินการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพของไทย ให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ มาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการ ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 212 ราย แบ่งเป็น ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 51 ราย ธุรกิจสปา 127 ราย และธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ 34 ราย
พาณิชย์ปั้นธุรกิจบริการสุขภาพ
บ้านเมือง : น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพ ได้แก่ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ สปา และนวดเพื่อสุขภาพ โดยได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพในเชิงลึกแก่ผู้ประกอบธุรกิจบริการสุขภาพของไทย เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการที่มาตรฐาน เพื่อรองรับแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)
ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยมีสถานบริการทางการแพทย์และสถานบริการสุขภาพที่หลากหลาย เช่น โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ศูนย์การแพทย์สาขาต่างๆ ธุรกิจนวดแผนไทย เพื่อการรักษาและการผ่อนคลาย ธุรกิจสปาไทยที่มีชื่อเสียง รวมถึงสถานบริการแพทย์ทางเลือก สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนที่หลากหลาย ทำให้ธุรกิจบริการสุขภาพของไทยสามารถตอบโจทย์ผู้ที่รักสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกได้ครบทุกมิติ และหากมีการส่งเสริมให้มีมาตรฐาน ก็จะยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุจากประเทศที่พัฒนาแล้ว
"ผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความต้องการด้านที่พำนักระยะยาวด้านการรักษาพยาบาล และด้านการให้บริการดูแลผู้สูงอายุจึงมีมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งกรมฯ จะเร่งผลักดันธุรกิจบริการของไทยให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และผลักดันให้เป็นอีกธุรกิจในการสร้างรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวอีกว่า ไทยมีความได้เปรียบในด้านการให้บริการธุรกิจบริการสุขภาพ เพราะคนไทยมีหัวใจรักบริการ มีความสะดวกสบายในการเข้ามารับบริการ ค่าใช้จ่ายในการให้บริการมีความเหมาะสม และที่ผ่านมาได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ มีผู้ที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมฯ จะเข้าไปผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้มีมาตรฐานที่เป็นสากลเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการยอมรับ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และหากธุรกิจสามารถพัฒนาจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ก็จะสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจเอง และยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำเงินมาใช้ขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพของไทย (ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ สปา และนวดเพื่อสุขภาพ) ให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการ มาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพจำนวน 212 ราย แบ่งเป็นธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 51 ราย ธุรกิจสปา 127 ราย และธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ 34 ราย