- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 05 March 2016 07:48
- Hits: 5958
'พาณิชย์'เผยผลประชุม AEM Retreat ดึงไทย-มาเลเซียพี่เลี้ยงCLMV ขึ้นผู้นำขับเคลื่อนศก.อาเซียน
แนวหน้า : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2559 ที่เชียงใหม่ มีความเห็นว่าจะผลักดันประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียน เพราะ มองว่า CLMV เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ได้รับ ผลกระทบเศรษฐกิจโลกน้อย และเป็นกลุ่ม ประเทศที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียนได้ โดยจะให้ไทย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการพัฒนา สูงกว่าเข้ามาช่วยสนับสนุนในด้านต่างๆ ให้ CLMV มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในที่ประชุมเห็นตรงกันในการสานต่อการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ประกอบด้วย สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจา 6 ประเทศ คือ จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพื่อให้เกิด ความเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยตั้งเป้าให้สามารถสรุปผลได้ในปี 2559 ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นที่จะลดภาษีทางการค้าระหว่างกันให้ได้ 80% ของสินค้าที่มีการค้าระหว่างกันใน 10 ปีข้างหน้า โดยในวันแรกของการทำข้อตกลงต้องมีการลดภาษีให้ได้ 65% ของสินค้าที่ทำการค้าระหว่างกัน เชื่อว่า กรอบข้อตกลงดังนี้จะทำให้เกิดการค้าสินค้า การบริการ และการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การประชุม AEM Retreat ที่เชียงใหม่ ถือเป็นการประชุมครั้งแรก หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเป็นการประชุมก่อนที่จะมีการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ในเดือนสิงหาคม 2559 โดยได้มีการหารือกันในหลายประเด็น เช่น การสนับสนุนให้อาเซียนเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ของโลก การส่งเสริม SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ การลดอุปสรรคการ จัดตั้งบริษัทข้ามประเทศในอาเซียน การตั้งจุดเชื่อมโยงด้านอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน เป็นต้น
นายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษา ธุรกิจอาเซียน และรองประธานสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เห็นว่าควรมีการใช้ ลาวเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ เพื่อรองรับสินค้าจากหลายประเทศ และกระจายไปยังภูมิภาค เช่น สินค้าที่มา จากจีน ให้มารวมที่ลาวก่อนกระจายไปประเทศอื่น เพราะเห็นว่าลาวมีพื้นที่ติดกับหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจกำลังรวบรวม ปัญหาหลังการเปิด AEC เช่น ซิงเกิ้ลวินโดว์ส ที่ยังประโยชน์ต่อภาคธุรกิจน้อย แม้ภาครัฐจะระบุว่าทำประโยชน์ได้มาก แต่กลุ่มผู้ใช้คือเอกชนยังเข้าถึงได้น้อย ขณะที่ปัญหาของกลุ่ม SMEs ส่วนใหญ่ในอาเซียน คือเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเทคโนโลยีที่ยังมีใช้ไม่ทั่วถึง ซึ่งภาครัฐของแต่ละประเทศต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ เช่น ให้ผู้ประกอบการกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่ SMEs ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย โดยอาจมีการรวม กลุ่มธุรกิจกันให้มากขึ้น