- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 12 July 2014 20:57
- Hits: 2899
ยันโละสต๊อกข้าว 18 ล้านตัน หมดภายใน 3 ปี พาณิชย์ระบายอีกลอตสค.นี้
แนวหน้า : นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จะพยายามเร่งให้มีการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลให้ได้ภายในเดือนสิงหาคม 2557 โดยไม่ต้องรอตรวจสต๊อกข้าวให้ครบก่อน เพราะการตรวจสอบเท่าที่ผ่านมาพอจะรับรู้ได้ถึงคุณภาพ ส่วนวิธีการระบายจะยังคงใช้วิธี การประมูลแบบทั่วไป การขายตรง การขายแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) และประมูลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(เอเฟท) แต่ทั้งนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนในวิธีการดำเนินการ และไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวในตลาด ซึ่งแนวทางการดำเนินการทั้งหมดทางกรมจะมีการนำเข้าเสนอต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 11 ก.ค. นี้
พร้อมคาดว่า จะมีการระบายข้าวได้เดือนละประมาณ 5-6 แสนตัน ทั้งปีคาดว่าน่าจะส่งออกข้าวได้ 8-10 ล้านตัน ซึ่งช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-มิ.ย. 2557) ไทยส่งออกข้าวไปได้แล้วกว่า 5.35 ล้านตัน ประเมินว่าจะสามารถระบายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่กว่า 18 ล้านตัน ได้หมดภายใน 3 ปี
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ยืนยันว่าจะพยายามให้ข้าราชการทำงานอย่างโปร่งใส เต็มที่เพื่อรับใช้ประชาชน และเพื่อทวงคืนศักดิ์ศรี ความเชื่อมั่นคืนให้ กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงจะมีการทบทวน แก้ไข กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจการค้าของภาคเอกชน การลงทุน เพื่อรองรับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้สามารถประคองตัวได้ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในช่วงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 นี้
อีกทั้ง ตนพร้อมทำงานตามที่ คสช. มอบหมาย โดยจะมีการเร่งใน 4 นโยบาย คือ การดูแลเรื่องปากท้องของประชาชน การกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความปรองดอง และปรับระบบงานราชการให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังจากนี้จะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในทางปฏิบัติด้วย
น.ส.ชุติมา กล่าวถึงการบริหารจัดการข้าวนั้นในเรื่องรายละเอียดต้องรอนโยบายการดำเนินการที่ชัดเจนจาก คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานอีกครั้ง
พาณิชย์ เตรียมระบายข้าวในสต๊อกส.ค.นี้ มองราคา H2/57 สูงขึ้น-คาดปีนี้ส่งออกได้ 10 ล้านตัน
นางดวงพร รอดพยาธิ์ รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลตั้งแต่เดือนส.ค.นี้เป็นต้นไปได้ทันที ไม่ต้องรอตรวจสต็อกข้าวให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะการตรวจสอบเท่าที่ผ่านมาพอจะรับรู้ถึงคุณภาพ และความมีอยู่จริงของปริมาณข้าวในสต็อกบ้างแล้ว ทำให้วางแนวทางในการระบายได้เลย ประกอบกับในครึ่งหลังของปี อาจเกิดภาวะเอลนิโญไปทั่วโลก ทำให้ผลผลิตข้าวโลกลดลง ซึ่งไทยจะได้เปรียบ ขณะที่คู่แข่งอย่างอินเดียเริ่มส่งออกได้น้อยลง ทำให้คาดว่าแนวโน้มราคาข้าวตลาดโลกในครึ่งปีหลังอาจสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละเดือนจากนี้คาดว่า จะสามารถระบายข้าวออกได้ไม่น้อยกว่า 500,000-600,000 ตัน แต่คงไม่มากเป็นล้านตันเหมือนที่ผ่านมา ทำให้คาดว่าในปีนี้ไทยน่าจะส่งออกข้าวได้ราว 10 ล้านตัน เพราะครึ่งปีแรกส่งออกได้แล้ว 5.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50% คิดเป็นมูลค่า 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 19% ส่วนการระบายแบบจีทูจี ขณะนี้มีหลายประเทศสนใจซื้อ และอยู่ระหว่างการเจรจา เช่น อิรัก อิหร่าน หรือแอฟริกาก็มีความต้องการสูง สำหรับสัญญาเดิมกับจีน 1 ล้านตันนั้น ต้องส่งมอบให้แล้วเสร็จ เพราะขณะนี้เพิ่งส่งมอบไปเพียง 100,000 ตันเท่านั้น สำหรับสัญญาจีทูจีเดิม 7.3 ล้านตัน ที่ทำในรัฐบาลชุดก่อน มีการส่งมอบให้ผู้ซื้อบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบ ส่วนที่เหลือระงับการส่งมอบไปแล้ว
"วิธีการระบาย ยังคงใช้การประมูลทั่วไป การขายตรงให้กับผู้ส่งออก การข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการประมูลผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) แต่อาจปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินการบ้าง โดยจะเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเอกชนให้มากขึ้น และจะเปิดให้ทุกภาคส่วนเสนอซื้อข้าวรัฐได้ ไม่ขายยกโกดังเหมือนก่อน แต่อาจจะขายยกกอง ทำให้รายเล็กเสนอซื้อได้ ส่วนเรื่องความโปร่งใส จะต้องมีมากขึ้น เพราะคสช.ย้ำมากว่า ขายข้าวอย่าให้มีเงินทอน ผู้ซื้อให้ราคาเต็มๆ ได้เลย เงินจะได้เข้ารัฐเต็มจำนวน และคนซื้อก็จะมั่นใจด้วย"นางดวงพร กล่าว
อินโฟเควสท์