- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 28 February 2016 10:57
- Hits: 1674
นบข.ตั้งเป้าผลผลิตข้าวปีนี้ 25-27 ล้านตันข้าวเปลือก ส่งออก 9.5 ล้านตัน,ทำแผนยุทธศาสตร์ครบวงจร
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบการจัดทำแผนข้าวครบวงจร เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการทำการตลาด ซึ่งเป็นแผนงานที่จะทำงานร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรตามแนวทางประชารัฐของรัฐบาล โดยตั้งเป้าจะมีการติดตามการทำงานในทุกๆ 6 เดือน 12 เดือน 18 เดือน และถือเป็นครั้งแรกที่มีการทำเป็นยุทธศาสตร์ข้าวที่มีแผนงานอย่างชัดเจน เน้นการปรับเปลี่ยน การทำการตลาดนำการผลิต มีการกำหนดตลาดขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตให้ครบวงจรในพื้นที่ และให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลข้าวสารได้ถูกต้อง โดยในปีนี้กำหนดปริมาณการผลิตข้าวอยู่ที่ 25 ล้านตันข้าวเปลือก แต่ต้องดูในเรื่องผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งจึงมีเผื่อเหลือและขาดไว้ที่ 27 ล้านตันข้าวเปลือก
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้เสนอขออนุมัติงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการตามแผนข้าวครบวงจรวงเงินรวมประมาณ 10,080 ล้านบาท แบ่งเป็น มาตรการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้เงินจากงบกลางปี 2559 จำนวน 3,319 ล้านบาท และกระทรวงพาณิชย์ จะใช้งบประมาณ 6,674 ล้านบาท โดยจะขอจัดสรรงบประมาณในปี 2560
สำหรับมาตรการของกระทรวงเกษตรฯ ประกอบไปด้วย 4 มาตรการ คือ 1.โครงการส่งเสริมให้เกษตกรใช้เมล็ดพันธ์คุณภาพดี วงเงิน 206 ล้านบาท, 2.สนับสนุนสินเชื่อให้กับเกษตกรชาวนาที่หันไปปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ โดยให้ ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 ต่อปี โดย ธ.ก.ส.จะมาขอชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาลร้อยละ 3.9 โดยชาวนารวมกลุ่มกู้ได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อ 83 ล้านบาท, 3.มาตรการจูงใจในการปรับเปลี่ยนให้มีการปลุกพืชที่หลากหลายทั้งแบบถาวรและระยะสั้น กำหนดไว้ใน 3 แสนไร่ พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด งบประมาณ 648 ล้านบาท และ 4.มาตรการในการจูงใจพักดินในการเพาะปลูก
ในพื้นที่ 5 แสนไร่ คาดว่ามีเกษตรกรเข้าร่วม 25,000 ครัวเรือน วงเงิน 2,382 ล้านบาท ซึ่งมาตรการทั้งหมดกระทรวงเกษตรฯจะเสนอเข้าสู่ ครม.อีกครั้ง
ด้านนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าส่งออกข้าวไว้ที่ 9.5 ล้านตัน ซึ่งยอมรับว่าเป้าส่งออกอาจจะลดลงเนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง โดยกลุ่มประเทศหลักที่ยังขายข้าวคือ กลุ่มประเทศในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป โอเชียเนีย และจะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มแอฟริกาด้วย
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำแผนข้าวครบวงจรจะเริ่มต้นในปี 2560 ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในแผนการปฎิรูป และทุกฝ่ายต้องไปร่วมกันดำเนินการต่อ หากสามารถเริ่มต้นดำเนินการต่อได้ก็จะขยายไปยังผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ทั้งยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อยครบวงจร ซึ่งทั้งหมดต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำ และต้องคำนึงถึงแต่ละพื้นที่ที่มีความแตกต่างและเหมาะสมในการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิด ซึ่งทั้งหมดจะวางแนวทางดำเนินการ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
นอกจากนี้ จะต้องวางแนวทางสนับสนุนให้กับผู้ที่ปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชชนิดอื่น เพราะจำเป็นต้องลดปริมาณการปลูกข้าว ที่ปีนี้กำหนดปริมาณการเพาะปลูกที่ 25 ล้านตัน เพื่อไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป ทั้งนี้ต้องบวกปริมาณการปลูกเผื่ออีกประมาณ ร้อยละ 8 เพื่อให้ได้ปริมาณการเพาะปลูก 27 ล้านตัน รองรับความเสียหายจากภัยแล้ง ทำให้ได้ปริมาณข้าวตามที่กำหนดไว้
แต่ต้องไปหาวิธีการแก้ปัญหาที่มีการปลูกมาก่อนหน้านี้ที่มีปริมาณกว่า 30 ล้านตัน เพื่อหามาตรการสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช
ส่วนความคืบหน้าการสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งทางคณะกรรมการฯ จะดำเนินการสรุปเอง
อินโฟเควสท์
ชูแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี-ปีนี้ลดปลูกข้าว
บ้านเมือง : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่า ประเด็นหลักที่ต้องการให้ทราบคือการทำแผนข้าวแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกจนถึงกระบวนการบริหารจัดการไปสู่การตลาด ต้นทางไปสู่ปลายทาง โดยจะวางเป็นยุทธศาสตร์ข้าวเป็นเวลา 20 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในแผนการปฏิรูปให้รัฐบาลชุดต่อไปเดินหน้าต่อ เรื่องดังกล่าว หากสามารถเริ่มต้นได้ก็จะให้ทำต่อในเรื่องรางพารา มันสำปะหลัง อ้อย ฯลฯ การทำงานต้องคิดลักษณะนี้ ถ้าไม่คิดแบบนี้ก็จะไปไม่ได้ โดยแผนงานต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีต้นทุนจำกัด และพื้นที่ที่แตกต่างกัน ต้องมีความเหมาะสมในการปลูกพืช นอกจากนี้เรายังสนับสนุนผู้ที่ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช เพราะรัฐบาลต้องการลดปริมาณการผลิตข้าว โดยปีนี้ต้องผลิตข้าวอยู่ที่ 25 ล้านตัน มิเช่นนั้นปริมาณจะมากเกินไป แต่ตัวเลขดังกล่าวต้องบวกกับอีก 8 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้องปลูกข้าวประมาณ 27 ล้านตัน ซึ่งต้องเผื่อปัญหาภัยแล้งด้วย ส่วนที่ผ่านมาเกินมาที่ประมาณ 30 กว่าล้านตันนั้น ต้องหามาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเปลี่ยนการปลูกพืช แต่รัฐบาลไม่ได้บังคับ
ขณะที่ พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (กมธ.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แถลงถึงการพิจารณาปรับปรุงรายงานการศึกษาว่าด้วยกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติว่า ขณะนี้ กมธ.ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. .... ที่ปรับปรุงแก้ไขไปให้ประธาน สปท. พิจารณาเพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ในส่วนที่ กมธ.พิจารณาคือ
ให้ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งเป็นกรอบแม่บทหลักในการพัฒนาประเทศนั้น บังคับให้มีการปรับปรุงทุกๆ 5 ปี หรือเมื่อมีสถานการณ์ที่กระทบต่อวัตถุประสงค์หลักของยุทธศาสตร์ชาติเพื่อความมั่นคงของประเทศ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด รวมทั้งต้องยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและกำหนดการประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังให้เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนอื่นๆ ของประธานและกรรมการ โดยกำหนดให้เป็นพระราชกฤษฎีกา ทั้งนี้ยังปรับปรุงกระบวนการพิจารณายุทธศาสตร์ชาติที่เสนอโดยคณะกรรมการต่อรัฐสภา หากเห็นไม่ตรงกันให้ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาและหากยังเห็นไม่ตรงกันอีก ให้นำเสนอรัฐสภาพิจารณา โดยรัฐสภามีมติอย่างใดก็ให้ดำเนินการตามนั้น อีกทั้งยังให้สำนักงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปราศจากการครอบงำทางการเมือง
บรรยายใต้ภาพ
ประชุม นบข.- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ครั้งที่ 1/2559 พร้อมย้ำต้องแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ให้ได้ ไม่ให้กระทบข้าวฤดูกาลใหม่ เผยมีผู้เสนอซื้อข้าวในสต๊อกแล้ว 70% พร้อมวางแผนปลูกข้าวให้เหมาะสม 2559 ณ ตึกสันติไมตรี(หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล