'พาณิชย์'เร่งทำแผนผลิตข้าวครบวงจรเผยมีความคืบหน้าแล้ว 90%เตรียมเสนอ'นบข.'24 ก.พ.

     น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการสัมมนาสินค้าข้าว เรื่อง'แนวทางการวางแผนการผลิตข้าวครบวงจร' จัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแนวทางการวางแผนการผลิตข้าวครบวงจร โดยมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 90% ซึ่งการสัมมนานี้ จะเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปรวมสรุปผล นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ และหากได้รับความเห็นชอบก็จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

       โดยในปี 2559 นี้ได้กำหนด เป้าหมายการผลิต 27.17 ล้านตันข้าวเปลือก ขณะที่คาดการณ์ความต้องการใช้รวม 25.01 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนการหารือกับโรงสี เพื่อให้กลุ่มโรงสีซื้อข้าวแปลงนาของเกษตรกรโดยตรงนั้น กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับโรงสีในสัปดาห์นี้ เพราะขณะนี้มีข้อมูลเบื้องต้นว่าแต่ละพื้นที่จะมีปริมาณผลผลิตข้าวออกมามากน้อยเพียงใด โดยจะเน้นให้โรงสีเข้าไปช่วยซื้อในพื้นที่ที่มีผลผลิตออกมามาก จนถูกโรงสีในพื้นที่กดราคา รับซื้อข้าว ส่วนการลดหรือเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวนั้น เป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว

       สำหรับ ประเด็นการสัมมนาจะขอความเห็น 15 ประเด็น ประกอบด้วย 1.แผนการผลิตข้าวครบวงจรซึ่งปี 2559 ตั้งเป้าหมายการผลิตรวม 27.17 ล้านตันข้าวเปลือก ขณะที่คาดการณ์ความต้องการใช้รวม 25.01 ล้านตันข้าวเปลือก, 2.การกำหนดพื้นที่เพาะปลูกข้าว, 3.การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปัญหาและมาตรการจูงใจให้ขึ้นทะเบียนหรือมาตรการทางกฎหมาย,4.การลดต้นทุนการผลิต เช่น ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าเช่าที่นา เป็นต้น

     5.เมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งใช้ประมาณ 1 ล้านตัน เพียงพอหรือไม่, 6.การเก็บเกี่ยวข้าว เช่น รถเกี่ยวข้าวมีเพียงพอในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากหรือไม่, 7.การประกาศ ภัยพิบัติเพื่อชดเชยโครงการประกันภัยพืชผลเพื่อชดเชยโครงการ ประกันภัยพืชผล, 8.การปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปปลูกพืชหลากหลาย, 9.การส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวตามความต้องการตลาดปัจจุบัน, 10.การส่งเสริมให้ปลูกพืชปุ๋ยสดเพิ่มคุณภาพดิน

      11.ตลาดข้าวเฉพาะ, 12.การสนับสนุนแหล่งเงินทุน หมุนเวียน, 13.ค่าขนส่งไปรษณีย์, 14.ส่งเสริมพัฒนาโรงสีติดดาว และ 15.มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการ ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกร โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก (จำนำยุ้งฉาง) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ ผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บสต๊อก และโครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก

พาณิชย์ เปิดยื่นซองประมูลขายข้าวเป็นการทั่วไปล็อตแรก 5.7 แสนตัน 16-17 ก.พ.นี้

       กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและสามารถยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมครั้งแรกของปี 2559 ปริมาณ 5.7 แสนตัน ในวันที่ 16 – 17 กุมภาพันธ์ นี้

  นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ ให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรม ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งผลปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อข้าวเป็นการทั่วไป 34 ราย และเข้าสู่อุตสาหกรรม 17 ราย โดยผลการตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐานของผู้เสนอซื้อของกรมฯ ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน และกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่ามีผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น สำหรับการประมูลข้าวเป็นการทั่วไป 34 ราย และเข้าสู่อุตสาหกรรม 16 ราย ส่วนอีก 1 ราย เอกสารไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศ

   โดยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติ สำหรับการประมูลข้าวเป็นการทั่วไป 34 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ปริมาณ 2.04 แสนตัน ในข้าว 8 ชนิดที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและใกล้เคียงมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด P/A/B) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าว A1เลิศ และปลายข้าว (เหนียว) A1 รวมจำนวน 40 คลัง ใน 13 จังหวัด

     ผลการเปิดซองเสนอราคาซื้อปรากฏว่ามีผู้มายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป จำนวน 25 ราย โดยมีผู้เสนอราคาที่เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 15 ราย ใน 35 คลัง ปริมาณ 152,377 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 74 ของปริมาณที่เปิดประมูล) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 83,233 ตัน คิดเป็นร้อยละ 55 รองลงมาได้แก่ ปลายข้าว A1เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าว (เหนียว) A1 ตามลำดับ

   และในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นี้ จะเปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติสำหรับการประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม จำนวน 16 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 3.6 แสนตัน เป็นข้าว 7 ชนิดที่คุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด C) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 119 คลัง ใน 28 จังหวัด

   ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้ผู้เสนอซื้อสูงสุดสำหรับการประมูลทั้ง 2 แบบ กรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการรวบรวมผล ให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐพิจารณาก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อไป

พาณิชย์ เผย เอกชน 15 ราย เสนอราคาซื้อข้าวดีสต็อกรัฐ สูงสุด 1.52 แสนตัน

     โรงสี-ผู้ส่งออกข้าว 15 ราย เสนอซื้อข้าวดีสต็อกรัฐ ราคาสูงสุด รวม 1.52 แสนตัน มูลค่า 1,783 ล้าน ขณะที่ ข้าวเกรดซี เข้าอุตสาหกรรม เปิดให้ยื่นซองเสนอราคา 17 ก.พ. นี้...

     นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ 34 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวรัฐบาลคุณภาพดีเป็นการทั่วไป ปริมาณ 204,000 ตัน ปรากฏว่า มีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียง 25 ราย แต่ในจำนวนนี้มีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 15 ราย ใน 35 คลัง คิดเป็นปริมาณ 152,000 ตัน หรือ 74% ของปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูลทั้งหมด มูลค่าเสนอซื้อรวม 1,783 ล้านบาท แบ่งเป็นข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 83,200 ตัน สัดส่วน 55% รองลงมาได้แก่ ปลายข้าวเอวัน เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าวเอวัน

       สำหรับ การเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารรัฐบาล เพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมปริมาณ 360,000 ตัน วันที่ 17 ก.พ. นี้นั้น มีผู้ผ่านคุณสมบัติ ที่สามารถยื่นซองเสนอราคาได้รวม 16 ราย โดยข้าวที่นำมาเปิดประมูลข้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเป็นข้าวเกรดซี (ข้าวเสื่อมคุณภาพ) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด และปลายข้าว เอวัน เลิศ รวม 119 คลัง ใน 28 จังหวัด

       "เมื่อได้ผลสรุปจากการเปิดระบายของข้าวทั้ง 2 แบบแล้ว จะนำรายชื่อผู้เสนอราคาสูงสุดให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกรัฐพิจารณา ก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติต่อไป" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ.

        ที่มา : www.thairath.co.th