- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 11 February 2016 12:12
- Hits: 1800
อคส.ตั้งวอร์รูมคุมเข้มขนย้ายข้าวเสื่อมเข้าสู่อุตสาหกรรม มั่นใจไม่หลุดเข้าสู่การบริโภค
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) กล่าวถึงการกำกับดูแลการขนย้ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมว่า หลังจากบริษัท ว.ธนทรัพย์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 21,180 ตัน เพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ได้มาทำสัญญากับ อคส.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.59 บริษัทฯ ได้ชำระเงินงวดแรกสำหรับข้าว 5,000 ตันแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.59 และเริ่มขนย้ายข้าวออกจากโกดังทันที ทั้งคลังที่จังหวัดพิษณุโลก นครปฐม นครศรีธรรมราช และสุรินทร์ โดยล่าสุดถึงวันที่ 9 ก.พ.59 สามารถขนข้าวได้แล้ว 640 ตัน
และในวันที่ 12 ก.พ.59 บริษัทฯ จะมาชำระเงินงวดที่ 2 สำหรับข้าวอีก 5,000 ตัน และจะต้องขนย้ายทั้ง 10,000 ตันแรกออกโกดังภายใน 20 วันทำการ หรือภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญา บริษัทฯ จะต้องถูกปรับ ส่วนการขนย้ายข้าวออกจากคลังขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ที่จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้มาตรฐานการขนย้ายเดียวกันนี้
สำหรับ การขนย้ายข้าวออกจากโกดังจนถึงโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของบริษัทฯ นั้น อคส.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามการขนย้ายระบายข้าวสารตามนโยบายรัฐบาล (วอร์รูม) เพื่อกำกับดูแลการขนย้ายให้เป็นไปตามแผน และไม่ให้มีข้าวไหลเข้าสู่ผู้บริโภค โดยได้วางแผนคุมการขนย้ายอย่างรัดกุมที่สุด และทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยคุมเข้มตั้งแต่กระบวนการขนย้าย ตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่รถบรรทุก การขนข้าวขึ้นบรรทุก การคลุม (ซีล) ผ้าใบ การชั่งน้ำหนัก และติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพการขนข้าว เคลื่อนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บไปสู่โรงงาน มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บริษัทฯ รวมถึงที่จุดการผลิต บ่อหมัก เพื่อให้เห็นว่า ข้าวเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า จะไม่มีข้าวหลุดออกไปสู่ผู้บริโภค
ด้านน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่กระทรวงการคลังระบุว่า มีข้าวหายไปจากสต๊กรัฐบาลประมาณ 390,000 ตันนั้นว่า ข้าวไม่ได้หาย แต่อาจจะเป็นการลงบัญชีที่ผิดพลาด และยังไม่ได้ข้อสรุปทางบัญชีเท่านั้น ซึ่งตนได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อคส. และอ.ต.ก. มาหารือแล้ว พร้อมกับได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อสรุปทางบัญชี และข้อเท็จจริงภายในวัน ที่ 12 ก.พ.นี้ จากนั้นจะนำส่งให้กับคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานต่อไป
อินโฟเควสท์
เล็งตั้งวอร์รูม คุมเข้มขนย้ายข้าวเสื่อม ป้องไม่เล็ดลอดสู่ผู้บริโภค
ประธานบอร์ด อคส. ดึง คสช.-ตำรวจ ตั้งวอร์รูม คุมเข้มขนย้ายข้าวเสื่อมออกจากคลัง อคส.-อ.ต.ก. จนถึงโรงงานผลิตปุ๋ย มั่นใจไม่มีข้าวหลุดเข้าสู่การบริโภคแน่ ด้าน ปลัดพาณิชย์ ยันข้าวรัฐไม่ได้หาย 3.9 แสนตัน อย่างที่คลังอ้าง แค่ยังไม่ได้ข้อสรุปทางบัญชี สั่ง อคส.-อ.ต.ก.ตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงใน 3 วัน หรือ 12 ก.พ.นี้
พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยถึงการกำกับดูแลการขนย้ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมว่า หลังจากที่บริษัท ว.ธนทรัพย์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวสารในสต็อกรัฐบาลปริมาณ 21,180 ตัน เพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ได้มาทำสัญญากับ อคส. เมื่อวันที่ 29 ม.ค.59 ไปแล้วนั้น บริษัทได้ชำระเงินงวดแรกสำหรับข้าว 5,000 ตันแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.59 และเริ่มขนย้ายข้าวออกจากโกดังทันที ทั้งคลังที่จังหวัดพิษณุโลก นครปฐม นครศรีธรรมราช และสุรินทร์ โดยล่าสุดจนถึงวันที่ 9 ก.พ. สามารถขนข้าวได้แล้ว 640 ตัน
นอกจากนี้ ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ บริษัทจะมาชำระเงินงวดที่ 2 สำหรับข้าวอีก 5,000 ตัน และจะต้องขนย้ายทั้ง 10,000 ตันแรกออกโกดังภายใน 20 วันทำการ หรือภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญา บริษัทจะต้องถูกปรับ ส่วนการขนย้ายข้าวออกจากคลังขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ที่จังหวัดนครสวรรค์ จะใช้มาตรฐานการขนย้ายเดียวกันนี้
สำหรับ การขนย้ายข้าวออกจากโกดังจนถึงโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของบริษัทนั้น อคส.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามการขนย้ายระบายข้าวสารตามนโยบายรัฐบาล (วอร์รูม) เพื่อกำกับดูแลการขนย้ายให้เป็นไปตามแผน และไม่ให้มีข้าวไหลเข้าสู่ผู้บริโภค โดยได้วางแผนคุมการขนย้ายอย่างรัดกุมที่สุด และทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคุมเข้มตั้งแต่กระบวนการขนย้าย ตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่รถบรรทุก การขนข้าวขึ้นบรรทุก การคลุม (ซีล) ผ้าใบ การชั่งน้ำหนัก และติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพการขนข้าว เคลื่อนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บไปสู่โรงงาน มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บริษัท รวมถึงที่จุดการผลิต บ่อหมัก เพื่อให้เห็นว่า ข้าวเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า จะไม่มีข้าวหลุดออกไปสู่ผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม อคส. ได้ประสานศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอใช้โทรศัพท์สายด่วน 1599 เพื่อรับแจ้งข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้อง โดยหากมีการนำข้าวในโครงการไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และมีผู้แจ้งเบาะแส จนสามารถนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย จะมีเงินรางวัลนำจับ 100,000 บาท
ด้านนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่กระทรวงการคลังระบุว่า มีข้าวหายไปจากสต๊กรัฐบาลประมาณ 390,000 ตันนั้น ยืนยันว่า ข้าวไม่ได้หาย แต่อาจจะเป็นการลงบัญชีที่ผิดพลาด และยังไม่ได้ข้อสรุปทางบัญชีเท่านั้น ซึ่งตนได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อคส. และ อ.ต.ก. มาหารือแล้ว พร้อมกับได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อสรุปทางบัญชี และข้อเท็จจริงภายในวัน ที่ 12 ก.พ.นี้ จากนั้นจะนำส่งให้กับคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานต่อไป.
ที่มา : www.thairath.co.th