WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOC Somkiatน้ำมันถูกบอร์ดขนส่งทางบกบี้บขส.-รถร่วมฯหั่นค่าโดยสารเงินเฟ้อติดลบเป็นเดือนที่ 13

   แนวหน้า : พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อลดลง 0.53% ติดลบต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 13 ระบุราคาน้ำมันร่วงยังเป็นปัจจัยสำคัญ ยืนยัน ไม่ใช่ภาวะเงินฝืด อ้างความต้องการบริโภค ยังมี แต่กำลังซื้ออ่อนจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ย้ำกรอบเงินเฟ้อปี'59 ยังอยู่ที่ 1-2% ด้านคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางสั่ง บขส. รถร่วมบริการ บขส.และรถระหว่างจังหวัดหั่นค่าโดยสาร 3 สต./กม. มีผล 15 กุมภาพันธ์นี้

     นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคม 2559 หรืออัตราเงินเฟ้อ ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เดือนมกราคม 2559 อยู่ที่ 105.46 ลดลง 0.53% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 และลดลง 0.26% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2558

      โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ขายปลีกในประเทศที่ลดลง ทำให้ค่าโดยสารในประเทศลดลง เช่น รถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 และ ค่าโดยสารเรือเริ่มปรับตัวลดลง รวมถึงค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ก็ลดลงด้วย ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งตัดราคาน้ำมันและอาหารสดออก อยู่ที่ 106.18 เพิ่มขึ้น 0.59% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.07% เทียบธันวาคม 2558 ส่วนการสำรวจสินค้า 450 รายการ พบว่ามีสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 144 รายการ คงที่ 202 รายการ และลดลง 104 รายการ

     "แม้ตอนนี้ เงินเฟ้อจะติดลบ แต่ก็ยืนยันว่าไทยยังไม่เกิดภาวะเงินฝืด เพราะความต้องการ การบริโภคในประเทศยังสูงอยู่ แต่กำลังซื้อที่อ่อนลงดังกล่าว มาจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ อีกทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานยังเป็นบวก ส่วนเงินเฟ้อจะเป็นบวกเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยตอนนี้ราคาน้ำมันยังลดลง และยังไม่เห็นแนวทางที่จะปรับสูงขึ้น อิหร่านยังจะมีการผลิตออกมาขายเพิ่ม ซึ่งถ้าราคาน้ำมันนิ่งอยู่ที่ระดับ 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เงินเฟ้อก็มีแนวโน้มจะปรับตัวเป็นบวกได้ในไตรมาสที่ 2 โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเป็นผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง หากราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อยังคงติดลบต่อเนื่อง"

      อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์เงินเฟ้อว่าจะอยู่ที่ 1-2% โดยอยู่ภายใต้ สมมุติฐานหลัก คือ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวที่ 3-4% ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 48-54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 36-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยในเดือน มีนาคมนี้ จะมีการทบทวนอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2559 อีกครั้ง เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้ได้หลุดกรอบสมมุติฐานมาอยู่ที่ 26 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงอย่างมากเทียบมกราคม 2558 ซึ่งราคาอยู่ที่ 45.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

     นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือ จากผู้ประกอบการให้ปรับลดราคาสินค้าลงตามต้นทุน น้ำมัน และค่าขนส่ง โดยในขณะนี้มีผู้ประกอบการลดราคาสินค้าใน 9 หมวดรายการสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น นมผง ข้าวสาร ปูนซีเมนต์ และเหล็กเส้น เป็นต้น

      ด้านคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมี นายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา มีมติให้ปรับลดค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วมบริการของ บขส.รวมถึงรถโดยสารที่วิ่งระหว่างจังหวัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

    สาเหตุที่ต้องปรับลดดังกล่าวเนื่องจากสถานการณ์ ราคาพลังงานโดยเพราะราคาน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิง หลักของระบบขนส่งรถโดยสารที่ผ่านมาได้มีการ ปรับลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการฯ ได้รายงานผลให้นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม รับทราบข้อมูลแล้ว ส่วนค่าเรือโดยสารจะมีการประชุมปลายเดือนนี้

     ด้านรมช.คมนาคมย้ำว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลลดลงอย่างต่อเนื่องโดยขณะนี้มีราคาเฉลี่ยต่ำกว่า 20 บาทต่อลิตร และคิดเป็นสัดส่วนต้นทุน 30% ของภาพรวมต้นทุนทั้งหมดของผู้ประกอบการรถโดยสารซึ่งมองว่าเมื่อราคาน้ำมันลงอย่างต่อเนื่องจึงควรปรับลดค่าโดยสารลงด้วย ส่วนจะปรับลดเท่าไหร่นั้นต้อง หารือกับผู้ประกอบการอีกครั้ง

     ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนค่าอะไหล่และค่าแรงมีการปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนถึง 70% จึงได้สั่งการให้คณะกรรมการขนส่ง ทางบกกลางกลับไปหารือและเร่งกลับมาเสนออีกครั้งว่า จะปรับลดลงได้เท่าใด เพราะต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายทั้งผู้ประกอบการ และผู้โดยสาร

     อัตราค่าโดยสารที่จะปรับลดเบื้องต้นมี 3 แนวทาง คือ 1)การปรับลดลงสูงสุด 5 สตางค์ต่อกม.ซึ่งไม่น่าจะทำได้เพราะจะกระทบกับผู้ประกอบการอย่างมาก 2)การลดค่าโดยสารลง 3 สตางค์ต่อกม.ลดลงตามสูตรคำนวณค่าโดยสารของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และ 3)การปรับลดค่าโดยสารลง 1 สตางค์ต่อกม.อย่างไรก็ตามก็ต้องรอการสรุปผลของคณะกรรมการ ขนส่งทางบกกลางอีกครั้ง

เงินเฟ้อ ยังฟุบ!ม.ค.หดตัว 0.53%ติดลบต่อเนื่องเดือนที่13รถร่วม-บขส.ลง 3 สต./กม.

     ไทยโพสต์ * ประเดิมปีลิง เงินเฟ้อ ม.ค.ลดลง 0.53% ติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 13 ระบุราคาน้ำมันปรับลดลงเป็นสาเหตุหลัก ขณะที่สินค้ารายการอื่นเริ่มขยับขึ้น พาณิชย์คาดเงินเฟ้อจะอยู่แดนลบอีกนาน รอ มี.ค.ประเมินใหม่ ด้านบอร์ดขนส่งทางบกกลาง สั่งหั่นค่ารถ บขส.-รถร่วมลง 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร

     นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค.2558 เท่ากับ 105.46 เทียบเดือน ธ.ค.2558 ลดลง 0.26% และเทียบเดือน ม.ค.2558 ลดลง 0.53% เป็นการติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 13 นับจาก ม.ค.2558 ซึ่งเป็นเดือนแรกที่เริ่มติดลบ และติดลบตลอดทั้งปี 2558

      สาเหตุ ที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ม.ค.2559 ติดลบ 0.53% มาจากการลดลงของหมวดพลังงานตามการลดลงของราคาน้ำมัน และยังมีการลดลงของค่าโดยสารรถประจำทางเรือ ค่าผ่านทางพิเศษ ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม และผลิตภัณฑ์ทำ ความสะอาด แต่หมวดผักและผลไม้สด ปลาและสัตว์น้ำ อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน ค่าเช่าบ้าน ค่าตรวจรักษาและค่ายา ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์มีราคาสูงขึ้น

       อย่างไรก็ดี เมื่อดูเงินเฟ้อพื้นฐานที่ตัดกลุ่มอาหารสดและพลังงานออก การขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.59% แสดงว่าสินค้าเริ่มมีการขยับราคาขึ้น แต่เมื่อเทียบกับราคาพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงถึง 15.30%

      "แนวโน้มเงินเฟ้อน่าจะยังขยายตัวอยู่ในแดนลบ เพราะลดลงตามราคาพลังงาน ส่วนจะเริ่มขยายตัวเป็นบวกได้เมื่อไร ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน เพราะเดิมเคยประเมินไว้ว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่มาถึงเดือน ม.ค.น้ำมันก็ยังไม่ขึ้น และยังมีคนเริ่มพูดอีกว่าน้ำมันจะลงไปถึง 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากเป็นตามนี้ เงินเฟ้อก็จะยังคงติดลบไปอีกนาน" นายสมเกียรติกล่าว

      ทั้งนี้ ยืนยันว่า การที่เงิน เฟ้อติดลบต่อเนื่อง ไม่ใช่ภาวะเงินฝืด เพราะเงินเฟ้อที่หักอาหารสดและพลังงานออกยังเป็นบวก เพียงแต่ขณะนี้กำลังซื้ออ่อนตัวลง เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ความต้องการซื้อสินค้ายังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไป

      สำหรับ คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2559 ประเมินไว้ว่าจะอยู่ระหว่าง 1-2% โดยมีสมมติฐานหลัก คือ การเติบโตทางเศรษฐ กิจที่ 3-4% ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 48-54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 36-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งในเดือน มี.ค.2559 จะมีการประเมินตัวเลขเงินเฟ้ออีกครั้ง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ที่มีนายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงหลักของระบบขนส่งรถโดยสาร ซึ่งมีการปรับลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง

     ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ปรับลดค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. และรถร่วมบริการของ บขส. รวมถึงรถโดยสารที่วิ่งระหว่างจังหวัดลง 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2559 เป็นต้นไป

       ส่วนค่าเรือโดยสารจะปรับลดลงหรือไม่ จะมีการประชุมในปลายเดือนนี้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!