WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCศรนารถ ใจมนพาณิชย์ เผยผลการศึกษา TPP ชี้ไทยควรเข้าร่วม-ดันจีดีพีโต 

  แนวหน้า : น.ส.ศิรินารถ ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ให้สถาบันปัญญาภิวัฒน์และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ทำการศึกษาถึง ผลดีและผลเสียของการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) โดยผลสรุปการศึกษาเบื้องต้น ระบุว่า ไทยควรเข้าร่วม เพราะจะได้รับผลดีมากกว่าผลกระทบ โดยหากไทย เข้าร่วม TPP จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.77% และหากไทย และสมาชิกอาเซียน คือ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เข้าร่วมด้วย จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.06%

    นอกจากนี้ จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการของประเทศให้สูงขึ้น เพราะมีมาตรฐานสูงครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงาน ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการยกระดับการพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน, เป็นการส่งเสริมภาคการผลิตที่สำคัญของไทย ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ให้อยู่ในระบบการผลิตของโลก, เป็นการผลักดันให้การผลิตและบริการของไทยเร่งพัฒนา สร้างศักยภาพ เพื่อให้แข่งขันได้, ผู้ประกอบการจะมีโอกาสในการออกไปลงทุน และแสวงหาวัตถุดิบในต่างประเทศ ช่วยให้ภาคการผลิตและภาคบริการของไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น และจะเป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวด จะเป็นการผลักดันให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยสูงขึ้น

    อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วม TPP ไทยจะได้รับผลกระทบ คือ ทำให้ตลาดสินค้าและบริการมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น, การการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวด จะส่งผลกระทบด้านสาธารณสุข และกระทบต่องบประมาณของรัฐในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์สูงขึ้น และไทยต้องมีการปรับแก้กฎระเบียบภายในมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลง

     ทั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีแผนที่จะหารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการเข้าร่วมความตกลง TPP กับประเทศสมาชิก จากนั้นจะหารือกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) เพื่อสอบถามว่ามีการทำความเข้าใจและชี้แจงกับประชาชนยังไง หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ตกลงเข้าร่วม TPP เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการชี้แจง

    อย่างไรก็ตาม กรมจะนำผลการศึกษาของสถาบันปัญญาภิวัฒน์ และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา รวมถึงผลการรับฟังความคิดเห็นที่กรมได้มีการหารือร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ประชาสังคม วิชาการ และภาคเกษตรก่อนที่จะนำเสนอให้คณะอนุกรรมการศึกษาความพร้อมของไทยต่อการเข้าร่วม TPP ที่มีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาภายในก.พ. นี้ จากนั้นจะนำเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป

พาณิชย์ ระบุผลศึกษาไทยเข้าร่วม TPP มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ชงรัฐบาลเคาะปลายก.พ.นี้

      น.ส.ศิรินารถ ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สถาบันปัญญาภิวัฒน์ และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ที่กรมฯ ว่าจ้างให้ศึกษาเรื่องความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ได้สรุปผลศึกษาในเบื้องต้นแล้ว โดยมีข้อเสนอให้ไทยเข้าร่วม TPP เพราะจะเกิดผลดีกับไทยมากกว่าผลกระทบ และยังจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีก 0.77% แต่ถ้าไทยและสมาชิกอาเซียนอื่น คือ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เข้าร่วมด้วย จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.06%

   สำหรับ ผลดี ได้แก่ ช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าและบริการของประเทศให้สูงขึ้น เพราะมีมาตรฐานสูงครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงาน ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการยกระดับการพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน และยังช่วยให้ภาคการผลิตที่สำคัญของไทย ทั้งยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของโลก (ห่วงโซ่อุปทาน) และจะช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมด้วย

    นอกจากนี้ ยังจะช่วยสร้างโอกาสในการออกไปลงทุน และแสวงหาวัตถุดิบในต่างประเทศ ช่วยให้ภาคการผลิตและภาคบริการของไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวด ถือเป็นการผลักดันให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยสูงขึ้น

    ขณะที่มีผลเสีย ได้แก่ ทำให้ตลาดสินค้าและบริการมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวด จะส่งผลกระทบด้านสาธารณสุข และทำให้รัฐต้องใช้งบประมาณสูงขึ้นในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ อีกทั้งไทยต้องปรับแก้กฎระเบียบภายในมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลง

      "กรมฯ จะนำผลศึกษาดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับผลการรับฟังความคิดเห็นที่กรมฯ ได้หารือร่วมกับทุกภาคส่วนไปแล้ว ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ประชาสังคม วิชาการ และภาคเกษตร ก่อนนำเสนอให้คณะอนุกรรมการศึกษาความพร้อมของไทยต่อการเข้าร่วม TPP ที่มีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิจารณา จากนั้นจะนำเสนอรัฐบาลพิจารณาว่าจะตัดสินใจอย่างไรปลายเดือน ก.พ.นี้" น.ส.ศิรินารถ กล่าว

     โดยระหว่างนี้ กรมฯ มีแผนจะหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการเข้าร่วมความตกลง TPP กับประเทศสมาชิก โดยจะหารือกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (เมติ) ซึ่งจะหารือกับเจโทรก่อนในวันที่ 5 ก.พ.59 เพื่อสอบถามว่า มีการทำความเข้าใจ และชี้แจงกับประชาชนอย่างไร หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เข้าร่วม TPP  เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการชี้แจงของไทย

     นอกจากนี้ ยังมีแผนหารือกับประเทศสมาชิก TPP อื่น เช่น เวียดนาม น่าจะเป็นช่วงเดือน มี.ค.59, สหรัฐฯ วันที่ 20-22 เม.ย.59 ในช่วงการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุน ไทย-สหรัฐฯ ที่สหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ ประมาณเดือน พ.ค.59 ที่นิวซีแลนด์

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!