- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 29 January 2016 07:00
- Hits: 3753
กรมพัฒน์ฯ คุมเข้มนอมินี ประเดิมลง ภูเก็ต-เกาะสมุย พบส่อแล้ว 2 ราย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คุมเข้ม ป้องกันนอมินี ยัน ตรวจตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนจัดตั้ง เผย ปีนี้ตรวจที่ภูเก็ต-เกาะสมุย พบส่อ นอมินี 2 ราย จ่อลุยตรวจเชียงใหม่-เชียงราย ปลายเดือนนี้ เตือน คนไทยที่ร่วมมือ ส่งดำเนินคดีแน่...
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึง การดำเนินการป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมที่คนต่างด้าวให้คนไทยถือหุ้นแทน (นอมินี) เพื่อให้สามารถทำธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ว่า กรมฯ ได้วางกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวดในการป้องกันการดำเนินธุรกิจในลักษณะปิดบังอำพรางให้คนไทยออกหน้าหรือถือหุ้นแทน เพื่อป้องกันไม่ให้คนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจสงวนสำหรับคนไทย โดยได้มีมาตรการป้องกันตั้งแต่ก่อนและหลังการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ หากพบว่าธุรกิจใดมีคนต่างด้าวถือหุ้น แม้ไม่เกิน 50% ต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่ธนาคารออกให้ว่ามีการร่วมลงทุนจากคนไทยจริง และหลังจดทะเบียนจัดตั้งแล้ว จะจัดทำรายชื่อนิติบุคคลที่ต้องสงสัย หรือเชื่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้คนต่างด้าว เพื่อกำหนดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดตามการประกอบธุรกิจ
สำหรับ ธุรกิจในกลุ่มเสี่ยงที่ถูกกำหนดไว้ 10 ธุรกิจ ได้แก่ จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม, ท่องเที่ยว, ซื้อ ขาย ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ (นายหน้า), ค้าอสังหาริมทรัพย์, ให้เช่ารถยนต์, สปา, ขายปลีกผลิตภัณฑ์งานฝีมือและของที่ระลึก, ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต, ขายตรง และบริการที่สนับสนุนการศึกษา
นางสาวผ่องพรรณ กล่าวด้วยว่า ในปี 59 กรมฯ จะร่วมกับกรมการท่องเที่ยวและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบนอมินีอย่างต่อเนื่อง โดยจะตรวจสอบเพิ่มเติมใน 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ เพชรบุรี (ชะอำ) ตราด และเชียงราย และล่าสุดได้ตรวจสอบแล้วที่ภูเก็ต และ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) เบื้องต้นพบว่า ธุรกิจมีพฤติกรรมน่าจะเข้าข่ายเป็นนอมินี 2 ราย ขณะนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึก และมีกำหนดลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายในช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้
"ปัญหานอมินีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากคนไทยที่รู้เห็นเป็นใจ คอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนคนต่างชาติ จึงขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว ทั้งที่จงใจหรืออาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยหวังแค่ประโยชน์ตอบแทนส่วนตน แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประเทศชาติ ขอให้หยุดการกระทำ เพราะหากตรวจพบหรือจับได้จะมีความผิดตามกฎหมาย และจะส่งดำเนินคดีจนถึงที่สุดทุกราย" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
สำหรับ คนต่างด้าวที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน และกรรมการบริษัทที่ตรวจสอบพบความผิด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
ส่วนผลการตรวจสอบนอมินีในปี 58 กรมฯ กับหน่วยงานพันธมิตร ได้ลงตรวจสอบจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งกรุงเทพฯ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งพบเข้าข่ายเป็นนอมินี 13 ราย โดยได้ส่งเรื่องให้ดีเอสไอสืบสวนต่อไปแล้ว และยังได้ส่งให้กรมสรรพากรดำเนินการขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย.
ที่มา : www.thairath.co.th
