- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 26 January 2016 11:03
- Hits: 1296
กรมพัฒน์ จับมืออาลีบาบาดัน SMEs-โอท็อปใช้อี-คอมเมิร์ซ
แนวหน้า : น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีและสินค้าชุมชน (โอท็อป) สู่ตลาดโลก ร่วมกับอาลีบาบา ซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซขนาดใหญ่ของประเทศจีน ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-คอมเมิร์ซ เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยมของ ผู้บริโภคและวงการการค้าโลก โดยมีอัตราการขยายตัวและการเติบโตแบบก้าวกระโดด
โดยจากข้อมูลสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พบว่าปี 2557 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของไทยมีมูลค่ากว่า 2.03 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น มูลค่าการขายที่ธุรกิจขายให้กับธุรกิจ (B2B) 1.23 ล้านล้านบาท, มูลค่าการขายที่ธุรกิจขายให้กับผู้บริโภค (B2C) 0.41 ล้านล้านบาท และมูลค่าการขายที่ธุรกิจขายให้กับภาครัฐ (B2G) 0.39 ล้านล้านบาท โดยเดือนตุลาคม 2558 เติบโต 3.65% มีมูลค่าการขายสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท และคาดว่าปี 2559 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี และโอท็อป ยังมีจำนวนน้อยที่ใช้อี-คอมเมิร์ซเป็น ช่องทางการขายสินค้าไปต่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้ร่วมมือกับอาลีบาบา ซึ่งเป็นตลาดออนไลน์ระดับโลก และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่เป็นผู้บริหารเว็บไซต์ thaitrade.com และเป็นตลาดออนไลน์ของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) จัดการอบรมให้ความรู้ด้านอี-คอมเมิร์ซระดับสากล
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านสินค้าและบรรจุภัณฑ์แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและโอท็อป รวมทั้ง ผู้ที่สนใจทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซทั่วไป เช่น ความรู้ด้านการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ การขยายช่องทางการตลาดส่งออกไปต่างประเทศ การบริหารจัดการด้าน โลจิสติกส์ และอี-เพย์เมนท์ เป็นต้น นอกจากจะได้รับทักษะความรู้ด้านอี-คอมเมิร์ซแล้ว ผู้ผ่านการอบรมจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมขายสินค้าบนเว็บไซต์ของอาลีบาบาอีกด้วย ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการอบรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.dbd.go.th หรือ www.trustmarkthai.com
"การจับมือกับอาลีบาบาครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสและส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีและโอท็อป ได้ใช้อี-คอมเมิร์ซเป็นช่องทางการขยายตลาด และสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล ที่ต้องการให้ผู้ประกอบการไทยได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยในระยะยาว เพราะเป็นการนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชน ส่งผลต่อความอยู่ดีกินดี สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่นและเศรษฐกิจของประเทศ"น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
