- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 19 January 2016 22:04
- Hits: 1282
พาณิชย์ เตรียมพาสินค้าออร์แกนิกส์ไทยร่วมงานเอ็กซ์โปในสหรัฐฯ มี.ค.นี้
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ มีกำหนดนำผู้ประกอบการสินค้าออร์แกนิกส์ไทย ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ เดินทางไปเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 9 – 16 มีนาคม 2559 ณ เมืองอนาไฮม์ สหรัฐอเมริกา ตามโครงการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้าเกษตรอินทรีย์เข้าร่วมงาน Natural Product Expo West 2016 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าออร์แกนิกส์ สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าจากธรรมชาติอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ มีผู้เข้าชมงานกว่า 63,000 ราย และผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,000 ราย พร้อมทั้งสำรวจตลาดเพื่อศึกษาโอกาสทางการค้าและช่องทางการกระจายสินค้า อันจะเป็นการขยายโอกาสสินค้า ออร์แกนิกส์ของไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้ต่อไปในอนาคต
“กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มในตลาดสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มผู้บริโภคสินค้าธรรมชาติและออร์แกนิกส์เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง นอกเหนือจากกลุ่ม Ethnic (ชาวฮิสแปนิกและเอเชีย) และกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ตลาดสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ออร์แกนิกส์ของสหรัฐฯ เป็นตลาดสินค้าอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสัดส่วนถึงร้อยละ 62 มีมูลค่า 39,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และยุโรปต่างตื่นตัวและระมัดระวังในการเลือกบริโภคสินค้าอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากตระหนักว่าการรับประทานอาหารที่ไม่ปลอดภัยและมีสารเคมีปนเปื้อนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ ดังนั้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงหันมานิยมบริโภคสินค้าเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น สินค้าธรรมชาติ สินค้าไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม และสินค้าออร์แกนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าออร์แกนิกส์ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สินค้าอาหารปราศจากสารเคมีปรุงแต่งนับเป็นสินค้าที่มีโอกาสสูงในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากผู้บริโภคสหรัฐฯ มีแนวโน้มบริโภคอาหารปราศจากสารเคมีปรุงแต่งต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยอาหารปลอดสารกลูเตนเพิ่มขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 16.8 รองลงมาคืออาหารปลอดสารกันบูดและอาหารปลอดสีผสมอาหารสังเคราะห์เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 อาหารธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 อาหารที่ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 อาหารมีโปรตีนสูงเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 อาหารมีไฟเบอร์สูงเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 อาหารมังสวิรัติเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 อาหารไขมันต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 อาหารที่ไม่มีนมเป็นส่วนประกอบเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 อาหารไม่มีคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 อาหารปลอดสารแลคโตสเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และอาหารโซเดียมต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3
ตลาดสินค้าออร์แกนิกส์และสินค้าธรรมชาติสหรัฐฯ เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งการเข้าสู่ตลาดก่อนคู่แข่งขันในขณะที่ตลาดยังมีศักยภาพในการขยายตัว จะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยได้เปรียบคู่แข่งขัน โดย ผู้ส่งออกไทยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นการเพิ่มมูลค่า เช่น การผลิตขนมขบเคี้ยวจากข้าวหอมมะลิ หรือการผลิตนมพร้อมดื่มจากมะพร้าวสำหรับผู้บริโภคที่แพ้สารแลคโตสในนมและให้พลังงานน้อยกว่านมทั่วไป เป็นต้น
แม้ว่า ข้อกำหนดของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ จะเข้มงวดในการผลิตสินค้าออร์แกนิกส์ ซึ่งกำหนดให้พื้นที่ที่เคยผ่านการทำการเกษตรโดยใช้สารเคมีจะต้องเว้นว่างจากการใช้สารเคมีอย่างน้อย 3 ปี ผู้ผลิตไทยสามารถเพาะปลูกและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงปรับเปลี่ยนพื้นที่ โดยเรียกว่า “สินค้าธรรมชาติ หรือ Natural Product” แทนได้ อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ และกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ มีความเข้มงวดอย่างมากในการตรวจสอบสินค้าอาหารนำเข้าสหรัฐ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
