- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 11 January 2016 23:42
- Hits: 4541
พาณิชย์ บีบผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหั่นราคาสินค้าลงมาอีกรอบหลังต้นทุนน้ำมัน-ค่าขนส่งวูบ
แนวหน้า : นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าในปีนี้ยืนยันว่า สินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคมีทิศทางทรงตัว และไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ ต่อเนื่อง เว้นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป ที่อาจมีสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น ในเร็วๆ นี้ กรมเตรียมเรียกผู้ประกอบการผู้ผลิตสินค้า เน้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มาหารือถึงการปรับลดราคาสินค้าลง โดยที่ผ่านมาสินค้าบางรายการได้ปรับลดลงไปแล้ว เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง แต่จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องก็น่าจะมีสินค้าอื่นที่สามารถลดราคาลงได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าไปแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการจะปรับลดราคาค่าบริการขนส่งลง 5-10% ตามราคาต้นทุนน้ำมันที่ลดลงไปก่อนหน้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป โดยกรมจะติดตาม การปรับลดราคาลงอย่างใกล้ชิด
"ราคายางพารา และยางสังเคราะห์ ที่ลดลงตามภาวะตลาดโลก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ปรับลดลง ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าในกลุ่มยางรถยนต์ ก็ได้ปรับลดราคาไปแล้ว 5-10% แต่ยังมองว่าราคาน่าจะลดลงได้มากกว่านี้อีก โดยอาจไม่ได้ลดลงในทันที เพราะสินค้าเหล่านี้มีการเก็บมีการเก็บสต๊อกไว้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการลดราคา"
สำหรับ การดูแลอาหารสำเร็จรูป กรมจะใช้โครงการหนูณิชย์...พาชิม ที่จำหน่ายอาหารสำเร็จราคา 25-35 บาท เข้าไปเป็นทางเลือกแก่ประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีก สมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) เพื่อต่ออายุโครงการหนูณิชย์ ในศูนย์อาหาร หลังจาก ครบกำหนดโครงการไปแล้วในเดือน ธ.ค. 2558 ที่ผ่านมา และจะขอความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย(สอท.) ในการจัดหา พื้นที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาถูก หน้าทางเข้า-ออกของโรงงานอุตสาหกรรม โดยตอนนี้มีร้านหนูณิชย์... พาชิมอยู่ 3,924 แห่งทั่วประเทศ ซึ่ง ปีนี้ตั้งเป้าใหม่ 10,000 แห่ง ซึ่งได้ร่วมมือกับหอการค้าไทยในการขยายโครงการเข้าไปในทุกจังหวัดแล้ว
"กรมจะเข้าไปดูแลค่าครองชีพ ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจะหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มให้ประชาชน และมีรายจ่ายที่น้อยลง แม้ปีที่ผ่านมาการแข่งขันที่รุนแรงจะไม่มีสินค้าใดปรับขึ้นราคา ส่วนการดูแลสินค้าควบคุมจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรบางรายการ ที่ราคาตกต่ำมากเกินกว่าปกติ ก็อาจจะต้องใช้กฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ในการเข้าไปกำหนดราคารับซื้อ ซึ่งคงจะต้องทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์"
