- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 06 January 2016 21:33
- Hits: 5503
พาณิชย์ เล็งชงแผนข้าวครึ่งปี
บ้านเมือง : น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปีนี้ กรมการค้าต่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำแผนระบายข้าวระยะ 18 เดือน แบ่งเป็นช่วง 6 เดือน 12 เดือน และ 18 เดือน เพื่อเตรียมนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบเร็วๆ นี้ ซึ่งเป้าหมายการระบายข้าวยังคงเดินหน้าระบายข้าวที่เหลืออยู่อีก 13 ล้านตันให้ได้มากที่สุด แต่จะเป็นช่วงเวลาและวิธีการระบายแบบใด จะต้องประเมินตามสถานการณ์อีกครั้ง รวมทั้งเดินหน้าระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐที่อยู่ระหว่างเจรจากับจีนเพิ่มเติมที่มีออร์เดอร์อยู่แล้วอีก 1 ล้านตัน อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์อีกหลายแสนตัน
ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะเร่งเจรจาขายข้าวจีทูจีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตัน ซึ่งจะพยายามอย่างเต็มที่และอยู่ระหว่างปรับแผนทำตลาดข้าวไปประเทศใหม่ที่สนใจข้าวไทย แต่ยังมีปัญหาด้านการซื้อขายโดยอาจจะใช้วิธีการซื้อขายแบบให้สินเชื่อโดยจะเป็นรูปแบบใดนั้นกำลังพิจารณา ส่วนการฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งคดีข้าวรัฐต่ออดีตนักการเมืองนั้น กระทรวงรอรายละเอียดจากกรมบัญชีกลาง หากได้ข้อมูลทั้งหมดก็พร้อมที่จะดำเนินการฟ้องร้องอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ตามแผนการทำตลาดที่กำหนดไว้ในช่วงต้นปี 2559 จะเดินทางไปเปิดตลาดข้าวกับประเทศอิหร่าน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ปัญหาการเมืองภายในประเทศ หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็พร้อมที่จะเดินทางไปเจรจาการค้าทันที ขณะที่การส่งออกสินค้ากระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายที่จะผลักดันส่งออกปีนี้ให้โตเป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ซึ่งวันที่ 20 ม.ค.นี้จะมีการประชุมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์การค้าแต่ละประเทศอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากการทำงานในรอบ 1 ปี ประเมินและให้คะแนนตนเองรวม 85 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม ในการดำเนินงาน 5 ภารกิจหลัก คือ ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงพาณิชย์ระดับภูมิภาค การดูแลค่าครองชีพไม่ให้สูงขึ้น การผลักดันการส่งออก โดยเฉพาะการรักษาส่วนแบ่งตลาดในตลาดหลัก ในกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญและการบริหารจัดการข้าวสต๊อกรัฐบาลที่มีการระบายอย่างต่อเนื่องผ่านการประมูลและไม่กระทบกับราคาตลาด
แนวหน้า ; นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แผนงานในปี 2559 ตั้งใจจะทำงานตามยุทธศาสตร์หลัก 4 ประการ ได้แก่ การผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด และ ปริมาณของตลาด โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่ง จะทำเรื่องข้าวเป็นลำดับแรก ซึ่งจะมีแผนงานการผลิตข้าวอย่างครบวงจร ทั้งด้านการผลิต และการตลาด โดยกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงสี เกษตรกร ผู้ส่งออก และภาครัฐ พยายามทำแผนงานเฉพาะหน้า ใน 6 เดือน 12 เดือน และ 18 เดือน ให้เสร็จ และเสนอ คณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว (นบข.) ภายในเดือนหน้า จากนั้นจะนำยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ที่มีอยู่มาทบทวนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี
"เป้าหมายการระบายข้าวยังคง เดินหน้าระบายข้าวที่เหลืออยู่อีก 13 ล้านตัน ให้ได้มากที่สุด แต่จะเป็นช่วงเวลาและวิธีการระบายแบบใด จะต้องประเมินตามสถานการณ์อีกครั้ง รวมทั้งเดินหน้า ระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐที่อยู่ระหว่างเจรจากับจีนเพิ่มเติมที่มี ออเดอร์อยู่แล้วอีก 1 ล้านตัน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ อีกหลาย แสนตัน"
ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะเร่งเจรจาขายข้าวจีทูจี ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตัน ซึ่งจะพยายามอย่างเต็มที่และอยู่ระหว่างปรับแผนทำตลาดข้าวไปประเทศใหม่ที่สนใจข้าวไทย แต่ยังมีปัญหาด้านการซื้อขาย โดยอาจจะใช้วิธีการซื้อขายแบบให้สินเชื่อโดยจะเป็น รูปแบบใดกำลังพิจารณา ส่วนการฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งคดีข้าวรัฐต่ออดีต นักการเมืองนั้น กระทรวงรอรายละเอียดจากกรมบัญชีกลาง หากได้ข้อมูลทั้งหมดก็พร้อมที่จะดำเนินการฟ้องร้องอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ตามแผนการทำตลาดที่กำหนดไว้ในช่วงต้นปี 2559 จะเดินทาง ไปเปิดตลาดข้าวกับประเทศอิหร่าน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ปัญหาการเมืองภายในประเทศ หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติพร้อมที่จะเดินทางไปเจรจาการค้าทันที ขณะที่ การส่งออกสินค้ากระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายที่จะผลักดันการส่งออกปีนี้ ให้โตเป็นบวกไม่น้อยกว่า 5% ซึ่งวันที่ 20 มกราคมนี้จะมี การประชุมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์การค้าแต่ละประเทศอีกครั้ง
"กระทรวงพาณิชย์ได้ชะลอแผนการเดินทางเยือนประเทศอิหร่านในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2559 ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำคณะออกไปก่อน โดยจะต้องรอสถานการณ์ที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การเจรจาเรื่องข้าวระหว่าไทยแลอิหร่าน และการดึงตลาดข้าวอิหร่านกลับมาก็ต้อชะลอไว้เช่นกัน โดยในอดีตอิหร่านมีการนำเข้าข้าวจากไทยหลายแสนตัน"
อย่างไรก็ตาม จากการทำงานในรอบ 1 ปี ประเมินและให้คะแนนตนเองรวม 85 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม ในการดำเนินงาน 5 ภารกิจหลัก คือ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงพาณิชย์ระดับภูมิภาค การดูแลค่าครองชีพไม่ให้สูงขึ้น การผลักดันการส่งออก โดยเฉพาะการรักษาส่วนแบ่งตลาดในตลาดหลัก ในกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญและการบริหารจัดการข้าวสต๊อกรัฐบาลที่มีการระบายอย่าง ต่อเนื่อง ผ่านการประมูลและไม่กระทบกับราคาตลาด