- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 23 December 2015 21:39
- Hits: 4553
พาณิชย์ ยันประมูลข้าวเสื่อมโปร่งใส ให้อคส.หารือทำสัญญากับผู้ชนะการประมูล 25 ธ.ค.นี้
นางสาวชุติมา บุณยประภัสสร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการประมูลข้าวเสื่อมของรัฐบาล เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม ว่า ได้มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบโปร่งใส ก่อนที่จะมีการเปิดประมูลแล้ว และไม่คุ้มค่าหากจะมีการแยกข้าวบางส่วนที่อาจเป็นข้าวดีปะปนอยู่กับข้าวเสื่อมคุณภาพ ผิดมาตรฐาน ออกมาแยกประมูล โดยได้มอบให้ทางองค์การคลังสินค้า ทำการตรวจสอบผู้ชนะการประมูลข้าวเสื่อมจำนวน 3.7 หมื่นตัน ว่า ต้องมีการนำข้าวไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมจริง ไม่ทำให้เกิดการปะปนกลับไปในส่วนของการบริโภคอีก โดยในวันศุกร์ ที่ 25 ธันวาคมนี้ ทางอคส.จะนัดหารือทำสัญญากับผู้ชนะการประมูลและตกลงเงื่อนไขในการขนย้ายต่อไป
ในขณะที่ ผลการระบายข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา ได้ทำการระบายข้าวไปแล้วกว่า 5 ล้านตัน จากสต๊อกทั้งหมด 18 ล้านตัน และเป็นการประมูลข้าวเสื่อมล๊อตแรกจำนวน 3.7หมื่นตันซึ่งแผนในการจัดการสต๊อกข้าว ยืนยันว่าจะยังสามารถดำเนินการได้ตามแผนระบายได้หมดภายใน 3 ปี ซึ่งการประมูลข้าว แต่ละครั้งต้องดูเวลาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบราคาตลาด
เข้มระบายข้าวเสีย 3.7หมื่นตัน 'ฉัตรชัย'กำชับสกัดรั่วไหลเข้าสู่ระบบการค้าปกติ
แนวหน้า : พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและ สหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข.ได้เห็นชอบผลการประมูลข้าวผิดไปจากมาตรฐานในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคนหรือสัตว์ ครั้งที่ 1/2558 โดยมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 2 ราย เป็น ผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าเพื่อ การจำหน่าย และผู้ประกอบกิจการผลิตปุ๋ย เสนอในราคา 5,020-5,420 บาทต่อตัน ใน 10 คลัง 7 จังหวัด รวม 37,412 ตัน มูลค่า 198 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ ผู้เสนอซื้อจะต้องทำสัญญาซื้อขายข้าวกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อเกษตร (อ.ต.ก.) ภายใน 15 วัน พร้อมทั้งยื่นแผนการ ขนย้ายข้าว และแผนการนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่ได้แจ้งไว้
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการรั่วไหลข้าวเข้าสู่ระบบการค้าปกติ และการเกิดผล กระทบต่อชื่อเสียงของข้าวไทย นบข.จึงได้กำหนดมาตรการในการกำกับดูแล โดยมอบหมายให้ อคส. เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสุ่มตรวจการส่ง-มอบ ข้าวตามแผนการขนย้ายข้าวสาร/ รวมถึงให้ อคส. และ อ.ต.ก. กำหนดเงื่อนไขและบทลงโทษในสัญญาซื้อขายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม /นอกจากนี้ยังให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานในระดับจังหวัดเพื่อสุ่มตรวจสอบบัญชีคุมสินค้า ซึ่ง นบข. มั่นใจว่า จะสามารถควบคุมและกำกับดูแลไม่ให้ข้าวในโครงการเข้าสู่วงจรการค้าเพื่อการบริโภค ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับ การประชุม นบข.ซึ่งจะมีอีกครั้งในวันที่ 21 ธันวาคม เตรียมจะเสนอเรื่องการพยุงราคาข้าว โดยให้ขยายระยะเวลาการเก็บสต๊อกข้าวของโรงสีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับซื้อข้าว โดยรัฐบาลจะ ชดเชยดอกเบี้ยให้ในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งคาดว่าเงินชดเชยจะอยู่ในวงเงิน 2 ล้าน 5 แสนบาท นอกจากนี้ จะเสนอให้ลดปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย จะลดราคากระสอบละ 10-30 บาท ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้ลดราคาปุ๋ยไปแล้ว 40-50 บาทต่อกระสอบ โดยหากผ่านความเห็นชอบ ราคาปุ๋ยจะลดลงจนถึงเดือนพฤษภาคม 2559/ส่วนยาปราบศัตรูพืช จะลดราคาลงอีกร้อยละ 8-10/รวมถึงค่าเช่ารถเกี่ยวข้าวและที่นา
สำหรับ สถานการณ์ข้าว ผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปี 58/59 มีทั้งหมด 22.98 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิจำนวน 6 ล้านตัน และข้าวเปลือกเหนียวจำนวน 6.74 ล้าน ซึ่งทั้ง 2 ชนิดเก็บเกี่ยวแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงข้าวเปลือกเจ้า 10.24 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าผลผลิตของข้าวจำนวนนี้จะออกมาในช่วงเดือนธันวาคม 2558-กุมภาพันธ์ 2559 ประมาณ 4-5 ล้านตัน