- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 22 November 2015 12:39
- Hits: 4662
รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ผลักดันการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อตรวจเยี่ยมการค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา และประชุมกับภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย ในวันที่ 16 ตุลาคม 2558
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าได้มีโอกาสตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรสะเดาซึ่งเป็นด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย สูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะฯ ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการปรับปรุงด่านศุลกากรสะเดา ระยะที่ 1 งบประมาณ 77 ล้านบาท ซึ่งได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2558 โดยจะมีการวางสาย Fiber optics เครื่อง X-ray สัมภาระ และโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ งบประมาณ 1,630 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของด่าน
ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะฯ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับตัวแทนภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อหารือถึงแนวทางการผลักดันการค้าชายแดนไทย – มาเลเซีย ให้มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น และปัญหา อุปสรรคต่างๆ โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่ การผลักดันการค้าชายแดนในระยะเร่งด่วน(Quick Win) ในเรื่องการกำหนดเขตปลอดภาษี การพิจารณาจัดทำ VAT Refund และการขยายเวลาเปิดปิดด่านสะเดา เป็นต้น
นอกจากนั้น ได้มีการพิจารณาความร่วมมือที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่น การจัดตั้งพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area) ข้อตกลง ASEAN Multi-Modal Transportation Agreement รถบรรทุกสินค้า 2 แผ่นป้ายทะเบียน การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดน สำหรับการสนับสนุนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาที่ประชุมได้มีการหารือโครงการ Liquidity Fund เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการค้าชายแดน และผ่านแดนขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี) โครงการประกันสินเชื่อระยะที่ 5 และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี) ทั้งนี้ จังหวัดสงขลามีศักยภาพในการลงทุนสูงเนื่องจากได้รับการจัดตั้งให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับกับการขยายการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ซึ่งจะได้หารือในความเป็นไปได้เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศมาเลเซียร่วมลงทุนกับนักลงทุนในพื้นที่ในธุรกิจที่มีศักยภาพ เช่น เกษตร ประมง สิ่งทอ เครื่องเรือน นิคมอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ ต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย