WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCอภรด ตนตราภรณก.พาณิชย์เผยสมาชิก RCEP พร้อมลดภาษีสินค้ากลุ่มแรกทันที

      แนวหน้า : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามการเจรจาเปิดเสรีในกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ขณะนี้ได้ข้อสรุปในการลดภาษีสินค้ากลุ่มแรกแล้ว ซึ่งสมาชิกตกลงที่จะมีการลดภาษีเหลือ 0% ทันที จำนวน 65% ของสินค้าที่มีการค้าขายในกลุ่ม RCEP ที่มีอยู่ประมาณ 8,000-9,000 รายการ และจะทยอยเพิ่มสินค้าอีก 20% ให้ภาษีเป็น 0% ภายใน 10 ปี ส่วนสินค้าที่เหลืออีก 15% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอ่อนไหว ก็จะมีการเจรจาให้มีการปรับลดภาษีลงในระยะต่อไป

       สำหรับ การลดภาษีเป็น 0% ในภาพรวมของไทยนั้น ไทยจะได้รับประโยชน์ในแง่ของ การสะสมแหล่งกำเนิดสินค้า ที่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าในกรอบข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่อาเซียนทำกับประเทศคู่เจรจาทั้ง 6 ประเทศ และเชื่อว่า ช่วยเพิ่มการส่งออกให้สินค้าไทยได้อย่างแน่นอน

     "การเปิดเสรีในกรอบ RCEP จะช่วยผลักดันให้กลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกประสบความสำเร็จ และทำให้ไทยได้ประโยชน์ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการค้าบริการ ซึ่งหากเทียบกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ไทยจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะกลุ่ม RCEP มีจีนกับอินเดียอยู่ด้วย แต่ใน TPP ไม่มีจีนและอินเดีย ส่วนการเข้าร่วม TPP นั้น ไทยต้องมีการศึกษาข้อตกลงทั้งหมดให้ชัดเจนก่อนว่ามีอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศบ้าง"นางอภิรดี กล่าว

      นางศิรินารถ ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้ จะมีการประชุมผู้นำอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มประเทศสมาชิกจะมีการรายงานความคืบหน้าการเจรจาเปิดเสรี RCEP ต่อผู้นำ ทั้ง รายละเอียดการเปิดเสรี วิธีการลดภาษีสินค้ากลุ่มแรก แนวทางการเปิดเสรีการค้าบริการ การลงทุน และการจัดทำข้อผูกพัน รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขัน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

        โดยการเจรจากรอบ RCEP เดิมตั้งเป้าการเจรจาให้จบภายในปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แต่ได้ขยายระยะเวลาการเจรจา ให้จบเป็นปี 2559 และเริ่มบังคับใช้ในปี 2560 หาก การเจรจากรอบ RCEP สำเร็จ จะเกิดเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ถึง 2 ประเทศ คือ จีน และญี่ปุ่น

       สำหรับ RCEP ประกอบด้วย สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยในปี 2557 ไทยมีมูลค่าการค้ากับประเทศสมาชิก RCEP รวม 2.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 57% ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เป็นมูลค่าการส่งออก 1.27 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 56% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย ในขณะเดียวกันมีมูลค่าการ นำเข้า 1.33 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 58% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของไทย

       ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยัง RCEP ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้า ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!