WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ส.ค.58 หด 6%เอกชนชะลอดูความชัดเจนหลังเปลี่ยนทีมศก.ใหม่

     น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือน ส.ค.58 มีผู้มายื่คำขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ 4,912 ราย ลดลง 6% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 13,240 ล้านบาท ลดลง 52% เทียบกับเดือน ส.ค.57 ขณะที่ส่งยอดการจดทะเบียนจัดตั้งช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนทั้งสิ้น 41,857 ราย เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 538 ราย อสังหาริมทรัพย์ 287 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 135 ราย ขายส่งเครื่องจักร 107 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 106 ราย

    สาเหตุที่ทำให้ยอดการทะเบียนจัดตั้งลดลงเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ทำให้ภาคเอกชนรอดูสถานการณ์ จึงชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน อีกทั้งมีการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวอย่างเข้มงวด โดยต้องได้รับใบอนุญาตจากรมการท่องเที่ยวก่อนจึงจะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ ทำให้เดือนนี้ไม่มีธุรกิจนำเที่ยวขอจดทะเบียนเลย จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขอจดถึง 101 ราย แต่เชื่อว่าการจดทะเบียนจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป หลังจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นมาตรการที่กรมฯ ร่วมดำเนินการด้วย คาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใน 1-2 สัปดาห์

    ส่วนยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเดือน ส.ค.58 มีจำนวน 1,542 ราย เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีทุนจดทะเบียนเลิก 5,520 ล้านบาท ลดลง 14% ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 9,984 ราย เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

    ขณะที่ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเพิ่มขึ้นนั้นไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะมีธุรกิจเกิดขึ้นก็ต้องมีธุรกิจเลิกกิจการ ซึ่งจากการตรวจสอบสาเหตุพบว่าเป็นการเลิกกิจการของธุรกิจค้าสลากในเดือนนี้ 183 ราย จากการออกมาตรการดูแลธุรกิจค้าสลากตั้งแต่เดือนก.ย.57 ส่วนในช่วง 8 เดือนปีนี้ มีธุรกิจค้าสลากจดเลิกกิจการแล้ว 1,800 ราย

   "กรมฯยังยืนยันว่า ยอดการจดทะเบียนในปีนี้จะได้ 60,000-65,000 ราย โดยไตรมาส 3 น่าจะมีธุรกิจจดเพิ่มอีก 15,000 ราย ซึ่งแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี และการเร่งรัดเบิกจ่ายของรัฐบาลในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับ คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในวงเงิน 136,000 ล้านบาท" น.ส.ผ่องนพรรณ กล่าว

     อินโฟเควสท์ 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนส.ค. 58 ลดลง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 57 พบธุรกิจก่อสร้างจดทะเบียนมากที่สุด

      กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนส.ค. 58 ลดลง 9 % เมื่อเทียบเดือนก.ค.58  และลดลง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 57 พบธุรกิจก่อสร้างจดทะเบียนมากที่สุด ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศมีจำนวน 1,542  ราย

  นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคม 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 4,912 ราย ลดลง 476 ราย คิดเป็น 9% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,388 ราย และลดลง 292 ราย คิดเป็น 6% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,204 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนสิงหาคม 2558 มีจำนวน 1,542  ราย

   มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนสิงหาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 13,240 ล้านบาท ลดลง จำนวน 7,037 ล้านบาท คิดเป็น 35% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 20,277 ล้านบาท และลดลงจำนวน 14,373 ล้านบาท คิดเป็น 52% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 27,613 ล้านบาท

    ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 538 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 287 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 135 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 107 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 106 ราย

 ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,277,730 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนรวม 19.65 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 617,851 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.53 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 436,323 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,107 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,421 ราย

  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้ง ทั้งสิ้น 41,857 ราย เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.- ส.ค.57) จำนวน 1,595 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2558 จะมีนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมากกว่า 60,000 ราย และจากการคาดการณ์ของสำนักเศรษฐกิจการคลัง ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.0 โดยได้รับผลดีมาจากภาคการท่องเที่ยว  นโยบายการเร่งรัดเบิกจ่ายของรัฐบาลในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในวงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ได้แก่ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร การส่งออก และภัยธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทโดยรวม

  สำหรับ เรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนสิงหาคม  2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 786 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 4,912 ราย หรือคิดเป็น 16% โดยแบ่งออกเป็น

   - ส่วนกลาง 567 ราย คิดเป็น 12% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) จำนวน 138 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 3 (รัชดาภิเษก)จำนวน 84 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 6 (ศูนย์ราชการ) จำนวน 81 ราย 

   - ส่วนภูมิภาค  219 ราย คิดเป็น 4% โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ สพค.จังหวัดชลบุรี จำนวน 27 ราย รองลงมา สพค.จังหวัดปทุมธานี จำนวน 20 ราย  และ สพค.จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 16 ราย

   นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล  รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 628,426 ครั้ง โดยในเดือนสิงหาคม 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 52,849 ครั้ง คิดเป็น 9%

   อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 13,071 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ค.58) 498 ราย คิดเป็น 4% ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,453 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 9,618 ราย คิดเป็น 73% และมีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 14,812 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ค.58) 544 เว็บไซต์ คิดเป็น 4% โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,491 เว็บไซต์ คิดเป็น 17% 2) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,383 เว็บไซต์ คิดเป็น 16%  และ 3) ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,779 เว็บไซต์ คิดเป็น 12% ซึ่งการได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

   ปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th> เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยสถิติผู้ใช้บริการจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558  มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 20,392  ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 9,362 ราย และส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 2,100 ราย โดยกรมได้กำหนดว่าในปี 2559  ให้นิติบุคคลทุกรายต้องนำส่งงบการเงินรอบปี 2558 ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งกรมจะอำนวยความสะดวกในการจัดทำฐานข้อมูลงบการเงินปี 2557 ในรูปแบบ XBRLให้นิติบุคคลทุกรายที่นำส่งงบการเงินแล้ว เพียงแค่บันทึกงบการเงินเฉพาะปี 2558 ปีเดียว โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลงบการเงินรอบปีก่อนหน้าอีก ทั้งนี้ นิติบุคคลที่จะส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะต้องยื่นคำขอรับ Username และ Password และเอกสารหลักฐานได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยบริการของกรมทุกสาขาทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th >เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)”หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4390, 098-830-4376 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail : [email protected]

      สุดท้ายนี้ กรมยังได้เปิดให้บริการใหม่อีกหนึ่งบริการ คือ การออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยสถิติการใช้บริการจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 1,805 คำขอ จำนวน 1,847 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง  1,154 คำขอ 1,187 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 651 คำขอ 660 ฉบับ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!