- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 19 September 2015 08:46
- Hits: 8147
พาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ส.ค.58 หด 6%เอกชนชะลอดูความชัดเจนหลังเปลี่ยนทีมศก.ใหม่
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือน ส.ค.58 มีผู้มายื่คำขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ 4,912 ราย ลดลง 6% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 13,240 ล้านบาท ลดลง 52% เทียบกับเดือน ส.ค.57 ขณะที่ส่งยอดการจดทะเบียนจัดตั้งช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนทั้งสิ้น 41,857 ราย เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 538 ราย อสังหาริมทรัพย์ 287 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 135 ราย ขายส่งเครื่องจักร 107 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 106 ราย
สาเหตุที่ทำให้ยอดการทะเบียนจัดตั้งลดลงเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ทำให้ภาคเอกชนรอดูสถานการณ์ จึงชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน อีกทั้งมีการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวอย่างเข้มงวด โดยต้องได้รับใบอนุญาตจากรมการท่องเที่ยวก่อนจึงจะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ ทำให้เดือนนี้ไม่มีธุรกิจนำเที่ยวขอจดทะเบียนเลย จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขอจดถึง 101 ราย แต่เชื่อว่าการจดทะเบียนจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป หลังจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นมาตรการที่กรมฯ ร่วมดำเนินการด้วย คาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใน 1-2 สัปดาห์
ส่วนยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเดือน ส.ค.58 มีจำนวน 1,542 ราย เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีทุนจดทะเบียนเลิก 5,520 ล้านบาท ลดลง 14% ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 9,984 ราย เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเพิ่มขึ้นนั้นไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะมีธุรกิจเกิดขึ้นก็ต้องมีธุรกิจเลิกกิจการ ซึ่งจากการตรวจสอบสาเหตุพบว่าเป็นการเลิกกิจการของธุรกิจค้าสลากในเดือนนี้ 183 ราย จากการออกมาตรการดูแลธุรกิจค้าสลากตั้งแต่เดือนก.ย.57 ส่วนในช่วง 8 เดือนปีนี้ มีธุรกิจค้าสลากจดเลิกกิจการแล้ว 1,800 ราย
"กรมฯยังยืนยันว่า ยอดการจดทะเบียนในปีนี้จะได้ 60,000-65,000 ราย โดยไตรมาส 3 น่าจะมีธุรกิจจดเพิ่มอีก 15,000 ราย ซึ่งแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี และการเร่งรัดเบิกจ่ายของรัฐบาลในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับ คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในวงเงิน 136,000 ล้านบาท" น.ส.ผ่องนพรรณ กล่าว
อินโฟเควสท์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนส.ค. 58 ลดลง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 57 พบธุรกิจก่อสร้างจดทะเบียนมากที่สุด
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนส.ค. 58 ลดลง 9 % เมื่อเทียบเดือนก.ค.58 และลดลง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 57 พบธุรกิจก่อสร้างจดทะเบียนมากที่สุด ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศมีจำนวน 1,542 ราย
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคม 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 4,912 ราย ลดลง 476 ราย คิดเป็น 9% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,388 ราย และลดลง 292 ราย คิดเป็น 6% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,204 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนสิงหาคม 2558 มีจำนวน 1,542 ราย
มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนสิงหาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 13,240 ล้านบาท ลดลง จำนวน 7,037 ล้านบาท คิดเป็น 35% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 20,277 ล้านบาท และลดลงจำนวน 14,373 ล้านบาท คิดเป็น 52% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 27,613 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 538 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 287 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 135 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 107 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 106 ราย
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,277,730 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนรวม 19.65 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 617,851 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.53 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 436,323 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,107 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,421 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้ง ทั้งสิ้น 41,857 ราย เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.- ส.ค.57) จำนวน 1,595 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2558 จะมีนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมากกว่า 60,000 ราย และจากการคาดการณ์ของสำนักเศรษฐกิจการคลัง ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.0 โดยได้รับผลดีมาจากภาคการท่องเที่ยว นโยบายการเร่งรัดเบิกจ่ายของรัฐบาลในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในวงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ได้แก่ มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร การส่งออก และภัยธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทโดยรวม
สำหรับ เรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนสิงหาคม 2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 786 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 4,912 ราย หรือคิดเป็น 16% โดยแบ่งออกเป็น
- ส่วนกลาง 567 ราย คิดเป็น 12% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) จำนวน 138 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 3 (รัชดาภิเษก)จำนวน 84 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 6 (ศูนย์ราชการ) จำนวน 81 ราย
- ส่วนภูมิภาค 219 ราย คิดเป็น 4% โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ สพค.จังหวัดชลบุรี จำนวน 27 ราย รองลงมา สพค.จังหวัดปทุมธานี จำนวน 20 ราย และ สพค.จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 16 ราย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 628,426 ครั้ง โดยในเดือนสิงหาคม 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 52,849 ครั้ง คิดเป็น 9%
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 13,071 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ค.58) 498 ราย คิดเป็น 4% ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,453 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 9,618 ราย คิดเป็น 73% และมีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 14,812 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ค.58) 544 เว็บไซต์ คิดเป็น 4% โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,491 เว็บไซต์ คิดเป็น 17% 2) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,383 เว็บไซต์ คิดเป็น 16% และ 3) ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,779 เว็บไซต์ คิดเป็น 12% ซึ่งการได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th> เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยสถิติผู้ใช้บริการจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 20,392 ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 9,362 ราย และส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 2,100 ราย โดยกรมได้กำหนดว่าในปี 2559 ให้นิติบุคคลทุกรายต้องนำส่งงบการเงินรอบปี 2558 ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งกรมจะอำนวยความสะดวกในการจัดทำฐานข้อมูลงบการเงินปี 2557 ในรูปแบบ XBRLให้นิติบุคคลทุกรายที่นำส่งงบการเงินแล้ว เพียงแค่บันทึกงบการเงินเฉพาะปี 2558 ปีเดียว โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลงบการเงินรอบปีก่อนหน้าอีก ทั้งนี้ นิติบุคคลที่จะส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะต้องยื่นคำขอรับ Username และ Password และเอกสารหลักฐานได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยบริการของกรมทุกสาขาทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th >เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)”หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4390, 098-830-4376 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail : [email protected]
สุดท้ายนี้ กรมยังได้เปิดให้บริการใหม่อีกหนึ่งบริการ คือ การออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยสถิติการใช้บริการจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 1,805 คำขอ จำนวน 1,847 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง 1,154 คำขอ 1,187 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 651 คำขอ 660 ฉบับ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย