WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gสมคด'สมคิด'สั่ง กระทรวงพาณิชย์ เร่งดูแลค่าครองชีพ แก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ขยายตลาดส่งออก

    'สมคิด' มองนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ศึกษาสร้างตลาดกลางทุกภูมิภาค หวังแก้ปัญหาสินค้าแพง- เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำสั่งจัดทัพลงพื้นที่สำรวจราคาให้เหมาะสม เผยนายกฯ ต้องการพบเอกชน หวังร่วมมือแก้ไขอุปสรรคการค้า การลงทุน- สั่งเดินหน้าส่งออกไปตลาดใหม่ๆ สร้างเครือข่าย AEC เพิ่ม ตั้งเป้า 5-10 ปีข้างหน้า ไทยต้องเข้มแข็งจากภายใน หนุนท่องเที่ยวท้องถิ่นเป็นตัวกระตุ้น หลังส่งออกอ่อนแอ ฟาก พาณิชย์ รับลูก'สมคิด' ตั้งเป้าลดขั้นตอนจดทะเบียนการค้าให้เหลือ 1 วัน หวังลดอุปสรรคภาคเอกชน รับปากจะเร่งแก้ทุกปัญหาที่ได้รับมอบหมาย ให้แล้วเสร็จในกำหนด 3 เดือน

  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ว่า ในวันนี้ได้นำนโยบายหลายอย่างของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมาปรึกษากับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ และภาคเอกชน เพื่อร่วมปรึกษาหารือและหาแนวทางในการแก้ไข

  โดยประเด็นสำคัญอยากให้กระทรวงพาณิชย์เน้นนโยบายเชิงรุก ให้มีการจัดทัพ เพื่เตรียมรองรับกับสถานการณ์ใหม่ๆในอนาคตและรองรับกับนโยบายใหม่ๆจากรัฐบาล สำหรับประเด็นแรกที่นายกฯ สั่งการ คือ ให้กระทรวงร่วมมือกับภาคเอกชนในการดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ประชาชนใช้อยู่ เนื่องจากมีเสียงบ่นว่าราคาสินค้า โดยเฉพาะอาหารยังสูง ทั้งๆที่ราคาน้ำมันลดลงแล้ว ซึ่ง รมว.พาณิชย์รับทราบแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่

  สำหรับ แนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพงนั้น  รมว.พาณิชย์ชี้แจงว่า จะมีการจัดทีมที่จะลงไปพื้นที่ และในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์มีราคาสินค้าจำเป็นอยู่แล้วว่าควรอยู่ราคาที่เท่าไหร่ ดังนั้น จะนำพาณิชย์จังหวัดตรวจตราตรวจสอบในราคาสินค้าจำเป็น รวมถึงจะมีการบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกันระหว่าพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  นอกจากนี้ นายกฯยังสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ศึกษา ว่าจะสามารถสร้างตลาดกลางทั่วทุกภาค หรือ ที่ย่อยไปกว่าภาคได้หรือไม่ เพื่อเป็นตลาดกลางที่สามารถให้พ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ประกอบการท้องถิ่น นำสินค้ามาขาย โดยเฉพาะในสินค้าจำเป็น เพื่อให้เกิดตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ในการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ผ่านตลาดชุมชน เพื่อให้เป็นกลไกบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในส่วนของราคาสินค้าที่ยังสูง แต่ยืนยันว่าจะไม่บิดเบือนราคาสินค้าแน่นอน

  ส่วนเรื่องที่ สอง นายกฯสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าว ยาง ปาล์มโดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังศึกษากับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาของข้าวนั้น เชื่อว่าจะมีการถกในชุดคณะกรรมการค้าข้าวต่อไป  ส่วนเรื่องยางกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการหารือ เพื่อหานโยบายช่วยเหลือ เพราะยางเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูก ดังนั้นจึงต้องเร่งพิจารณาเพื่อหาหนทางในการช่วยรักษาราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงกระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งตั้งทีมเพื่อดูพื้นที่ตลาดยางด้วย

  ส่วนเรื่องที่สามที่นายกฯฝากมา คือ โดยในปัจจุบันพบว่าการส่งออกไปตลาดโลกไม่ดี จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ อยากให้เน้นโฟกัสกลุ่มประเทศไหนที่มีศักยภาพ และเจาะตลาดกลุ่มนั้นโดยตรง โดยเน้นการสร้างเครือข่ายในการพัฒนาตลาดให้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น บางประเทศที่ใหญ่มีทูตพาณิชย์คนเดียวแต่มีศักยภาพสูง จึงควรเร่งในการจัดทัพใหม่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง เสริมบุคลากรเป็นทีม ไม่ใช่เน้นแค่การส่งออก เน้นการสร้างเครือข่ายสินค้า รวมถึงปัจจุบันพบว่า ตลาดอาเซียนมีความจำเป็น ก็เจาะไปกลุ่มดังกล่าวด้วย 

  นายสมคิด กล่าวว่า ขณะเดียวกัน นายกฯได้ระบุว่า อยากพบปะเพื่อหารือกับภาคเอกชน โดยให้เอกชนจัดเป็นกลุ่มในแต่ละด้านมา แล้วทำการบ้านเพื่อไปพบท่าน เนื่องจากท่านเล็งเห็นว่า การส่งออกมีความสำคัญมาก ซึ่งจะมีการแก้ไขปัญหาได้อย่างไรบ้าง โดยอุปสรรคในปัจจุบันที่มีอยู่ เช่น การจดทะเบียนการค้า ซึ่งรมว.พาณิชย์รับปากว่าภายใน 1 เดือนจากนี้ จะสามารถจดทะเบียนการค้าแล้วเสร็จได้ภายใน 1 วัน

   ด้านของกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างศึกษาดูในเรื่องของภาษีที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุน โดยมาตรการจะออกมาพร้อมๆกัน เพื่อให้เอกชนสามารถเดินหน้าไปได้ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน โดยหากพบปัญหาอยากให้เอกชน ผู้ประกอบการแจ้งรัฐบาลมา เพื่อหาแนวทางในการแก้ไข

   ทั้งนี้ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ เน้นยกระดับสินค้าด้านบริการ เนื่องจากปัจจุบันมีการเติบโตสูง เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภัตราคาร อาหาร การแพทย์ เรื่องความบันเทิง ภาพยนตร์ เป็นต้น โดยจะต้องมีการจัดทัพเพื่อเร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลอุตสากกรรมด้านลริการ ไม่ใช่การผลักดันสินค้าเพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว เนื่องจากในปัจจุบันการส่งออกสินค้ายังชะลอตัว

  "โครงสร้างของประเทศไทย เราไม่ได้มีแค่สินค้าอย่างเดียว สินค้าที่เราผลิตมีหลายอย่าง บางอย่างสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ปัจจุบันมันมีกลุ่มที่เติบโตเร็ว คือกลุ่มบริการ เวลาที่พาณิชย์แถลง เรื่องดุลการค้า จะแจ้งเป็น 2 ส่วนคือ สินค้าที่ผลิตเพื่อการส่งออก และสินค้าบริการ ซึ่งกลุ่มบริการค่อนข้างเติบโตดีกลุ่มนี้เป็นอนาคตของประเทศ  หากจัดทัพใหม่ ในอนาคตการจัดสรรงบประมาณ ไม่ใช่การผลักดันให้มีการส่งออกสินค้า ยังเน้นการส่งเสริมสินค้าบริการเพิ่มมากขึ้น เราหวังสร้างการเติบโตจากภายใน แต่ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นการส่งออกเป็นหลัก จึงต้องเปลี่ยน เพราะท้องถิ่นไม่แข็งแรงเลย เปรียบเสมือนที่ผ่านมาขาขวาแข็งแรง แต่ขาซ้ายเป็นโปลิโอ หน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ต้องมีทีมพิเศษ"นายสมคิด  กล่าว

  นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ไทยจะต้องเน้นการเติบโตจากภายใน เพื่อสร้างการเติบโตภายในให้เข้มแข็ง เช่น หนุนการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพราะหากการท่องเที่ยวขยายตัวในวงกว้าง ก็จะส่งผลให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เมื่อนักท่องเที่ยวมาไทยแล้ว อยากให้เดินทางท่องเที่ยวไปต่างจังหวัด ไปเที่ยวซื้อของท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ก็ต้องเร่งหาพื้นที่มีที่ให้เขาขาย โดยบทบาทของกระทรวงพาณิชย์จะต้องเร่งสร้างกระบวนการค้าการขายภายในประเทศให้คึกคักขึ้น ไม่ใช่แค่ตลาดส่งออก ซึ่งจะต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้แข็งแรงภายใน 5-10 ปีข้างหน้า 

  ขณะที่นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า  กระทรวงพาณิชย์จะนำไปตีโจทย์  และพูดคุยกันในหน่วยงาน เพื่อแปลงออกมาเป็นภาคปฏิบัติ โดยจะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆที่ได้รับมอบหมายภายในระยะเวลา 3 เดือน ตามที่กำหนดไว้

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!