- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 22 August 2015 08:14
- Hits: 1874
พณ.ไม่หวั่นเวียดนามลดค่าเงิน แต่กังวลปัญหาน้ำมันร่วงอีก-ศก.โลกยังทรุด
แนวหน้า : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่เวียดนาม ได้ลดค่าเงินด่องลงมา 1% ว่า การลดค่าเงินด่องของเวียดนามนั้น มองว่าผลกระทบที่ไทยได้รับจะมีลักษณะคล้ายกับการที่จีนลดค่าเงินหยวน ซึ่งไม่อยากให้ทุกฝ่ายกังวลใจในเรื่องนี้มากจนเกินไป ต้องมีการมองในภาพรวมว่าสินค้าของไทย และสินค้าของเวียดนาม มีทั้งที่แข่งขันกัน และสนับสนุนกัน อีกทั้งมองว่าเวียดนามลดค่าเงินลงด่องลงมาเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศของตนเองซึ่งที่ผ่านมาไทยก็ลดค่าเงินบาทลงมาระดับหนึ่งแล้ว และถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสม ขณะเดียวกันเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด จึงไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกและเกรงว่าจะเกิดปัญหาสงครามค่าเงินในกลุ่มอาเซียนและระดับภูมิภาคเกินไป
“การค้าขายอย่ามองในระยะสั้น ต้องมีการดูภาพรวม ต้องดูในระยะยาวด้วย ซึ่งในแง่ของสินค้า ต้องถือว่าสินค้าไทย และสินค้าเวียดนาม ค่อนข้างแตกต่างกัน เป็นคนละตลาด เช่น ข้าว ที่ข้าวไทยจะอยู่ในระดับข้าวที่มีคุณภาพสูง แต่ข้าวของเวียดนามจะเป็นข้าวขาวทั่วไป ขณะที่สินค้าชนิดอื่นๆก็มีหลายชนิด จึงมองแคบๆไม่ได้ ซึ่งเราก็ต้องมีการมองอย่างใกล้ชิด”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์กังวลคือที่เศรษฐกิจโลกยังไม่นิ่ง ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกก็มีแนวโน้มลดลงได้อีก ก็มีผลต่อการส่งออกและอัตราเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์ตัวเลขส่งออกทั้งปี 2558 ไว้ที่-3% แต่จากปัญหาปัจจัยต่างๆ ข้างต้นอาจจะทำให้ส่งออกติดลบมากกว่าที่เคยประมาณการไว้ และกระทรวง จะต้องมีการติดตามดูสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และจะพยายามทำทุกทางเพื่อให้การส่งออกไทยไม่ติดลบมากเกินไป
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุลรองประธานหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีเวียดนามลดค่าเงินด่องลงอีก 1% ว่า การลดค่าเงินของเวียดนามจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันทางการค้าของประเทศไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้ เงินบาทของไทยอ่อนค่าลงมามากแล้วหลังจากที่เงินหยวนของจีนลดค่าลงครั้งใหญ่ ซึ่งการลดค่าเงินด่องของเวียดนามครั้งนี้ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะสกุลเงินในภูมิภาคอ่อนลงมามากแล้ว หากเวียดนามไม่ลดค่าเงินตามลงมาก็จะเสียเปรียบในการแข่งขัน เพราะขณะนี้เวียดนามถือว่าค่อนข้างเนื้อหอมเพราะการส่งออกขยายตัวถึง 16% ในขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) คาดว่าจะขยายตัว 6-8% การลดค่าเงินลงมาก็จะทำให้เวียดนามยังคงรักษาความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไปได้