- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 18 August 2015 22:32
- Hits: 9170
พาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่ เดือนก.ค.58 จำนวน 5,388 ราย ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 5,388 ราย เพิ่มขึ้น 227 ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,161 ราย และลดลง 204 ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,592 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคม 2558 มีจำนวน 1,544 ราย
มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 20,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 8,372 ล้านบาท คิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 11,905 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวน 3,202 ล้านบาท คิดเป็น 19% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 17,075 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 569 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 303 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 141 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 124 ราย และการติดตั้งไฟฟ้า จำนวน 109 ราย
ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 614,968 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 19.61 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 433,577 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,101 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,290 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.58) มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้ง ทั้งสิ้น 36,945 ราย เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.- ก.ค.57) จำนวน 1,887 ราย คิดเป็น ร้อยละ 5 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2558 จะมีนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจประมาณ 60,000 - 65,000 ราย โดยได้รับปัจจัยบวกที่เป็นแรงสนับสนุนจากแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับภาค การท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน เดือน มิ.ย.58 ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การนำเข้าส่งออก และราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทโดยรวม
สำหรับ เรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนกรกฎาคม 2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 872 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 5,388 ราย หรือคิดเป็น 16% โดยแบ่งออกเป็น
- ส่วนกลาง 596 ราย คิดเป็น 11% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) จำนวน 172 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 5 (บางนา) จำนวน 90 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 3 (รัชดาภิเษก) จำนวน 84 ราย
- ส่วนภูมิภาค 276 ราย คิดเป็น 5% โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขต มากที่สุด คือ สพค.จังหวัดชลบุรี จำนวน 38 ราย รองลงมา สพค.จังหวัดนนทบุรี จำนวน 28 ราย และ สพค.จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 25 ราย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 575,577 ครั้ง โดยในเดือนกรกฎาคม 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 53,534 ครั้ง คิดเป็น 10%
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือ นิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 12,573 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (มิ.ย.58) 422 ราย คิดเป็น 3.5% ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,354 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 9,219 ราย คิดเป็น 73% และมีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 14,268 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (มิ.ย.58) 457 เว็บไซต์ คิดเป็น 3% โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,472 เว็บไซต์ คิดเป็น 17% 2) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,296 เว็บไซต์ คิดเป็น 16% และ 3) ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,652 เว็บไซต์ คิดเป็น 12% ซึ่งการได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ปัจจุบัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th> เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยสถิติผู้ใช้บริการจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 14,409 ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 7,231 ราย และส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 2,029 ราย ซึ่งระบบนี้สามารถรองรับการนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้นิติบุคคลส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing กรมจึงได้ร่วมมือกับบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ในการจัดทำฐานข้อมูลงบการเงินในรูปแบบ XBRL สำหรับนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2557 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคลที่จะนำส่งงบการเงินรอบปี 2558 เพียงแค่บันทึกงบการเงินเฉพาะปีล่าสุดปีเดียว โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลงบการเงินรอบปีก่อนหน้าอีก
ทั้งนี้ นิติบุคคลที่จะส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะต้องยื่น คำขอรับ Username และ Password และเอกสารหลักฐานได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยบริการของกรมทุกสาขา ทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th >เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4390, 098-830-4376 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail : [email protected]
สุดท้ายนี้ กรมยังได้เปิดให้บริการใหม่อีกหนึ่งบริการ คือ การออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยสถิติการใช้บริการจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 1,496 คำขอ จำนวน 1,532 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง 969 คำขอ 998 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 527 คำขอ 534 ฉบับ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย