- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 08 August 2015 11:46
- Hits: 1992
พาณิชย์ ปรับลดเป้าส่งออกปีนี้ -3% เป็นครั้งแรก จากเดิมคาดโต 1.2%
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 58 เป็น ติดลบ 3.0% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1.2% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ทำให้ประเทศคู่ค้านำเข้าสินค้าลดลงอย่างมาก ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าเกษตร และน้ำมันปรับลดลงไปมาก ประกอบกับตลาดรถยนต์ที่ปรับลดลงอย่างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรุ่นรถกระบะ ซึ่งตลาดรถกระบะมีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็น 11% ของมูลค่าการส่งออกของไทย แต่คาดว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาเป็นบวกในช่วง 2-3 เดือนจากนี้
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 58 ใหม่เป็นขยายตัวติดลบ 3% มูลค่า 220,698 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ขยายตัว 1.2% มูลค่า 230,304 ล้านเหรียญฯ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ย 60 เหรียญฯต่อบาร์เรล ค่าเงินบาท 35 บาทต่อเหรียญฯ และราคาสินค้าเกษตรยังไม่ปรับตัวดีขึ้น
โดยการปรับลดเป้าหมายการส่งออกดังกล่าว ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไป 6,826 ล้านเหรียญฯ จากปี 57 ที่ได้ 227,519 ล้านเหรียญฯ และน่าจะเป็นการตั้งเป้าประมาณการส่งออกติดลบเป็นครั้งแรกของไทย
"ถ้ามูลค่าการส่งออกไทยลดลง 3% ตามเป้าหมาย ในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ มูลค่าส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนต้องได้ 19,000 ล้านเหรียญฯ แต่ถ้าได้มูลค่ามากกว่านี้จะติดลบน้อยลง หรือถ้าได้มูลค่าน้อยกว่านี้ก็จะติดลบเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าตัวเลขที่ประเมินนี้ น่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดแล้ว ยังดีที่แม้มูลค่าส่งออกเราลดลง แต่ส่วนแบ่งตลาดในบางตลาดเรายังรักษาไว้ได้ ไม่ได้ลดลง แต่เมื่อไรที่เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าฟื้นตัวดีแล้ว เราจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในตลาดต่างๆ ให้มากขึ้นได้อีกแน่นอน" นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้กระทรวงพาณิชย์ต้องปรับลดประมาณการเป้าหมายการส่งออกใหม่ เพราะเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าไม่ได้ฟื้นตัวเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทำให้หลายประเทศมีการนำเข้าที่ลดลง ประกอบกับ ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีแรกเฉลี่ย 57 เหรียญฯต่อบาร์เรล หรือลดลงครึ่งหนึ่งจากปีก่อน และคาดจะคงทรงตัวในระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี ขณะที่ราคาสินค้าเกษตร ทรงตัวในระดับต่ำ
นอกจากนี้ สินค้าในกลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 11% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด มีมูลค่าการส่งออกลดลงจากการปรับเปลี่ยนรุ่นของการผลิต โดยเฉพาะรถกระบะ ทำให้มูลค่าการส่งออกหายไปมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในอีก 2-3 เดือน
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนผลักดันการส่งออกที่กำหนดไว้ ทั้งแผนยุทธศาสตร์หลัก และแผนยุทธศาสตร์เสริม เพื่อผลักดันยอดการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังให้กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นการเดินทางไปทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น เน้นตลาดสหรัฐฯ ยุโรป เอเชีย และเร็วๆ นี้จะเดินทางไปปากีสถาน และจีน เพื่อเจรจาขยายการค้าและผลักดันการส่งออกสินค้าไทย
นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาอยู่ในระดับกว่า 35 บาท/เหรียญฯ มีผลดีต่อการส่งออกแน่นอน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที บางสินค้าอาจจะเริ่มเห็นผลในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่าเงินบาทจากนี้ไปเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อเหรียญฯ และจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ดีขึ้น
อินโฟเควสท์
พาณิชย์ หั่นเป้าส่งออกเหลือ-3% เหตุเศรษฐกิจโลกยังทรุดยาว
แนวหน้า : นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนย.) เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2558 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.2% เหลือ -3% มีมูลค่า 220,698 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้บางประเทศจะสัญญาณดีขึ้นบ้าง เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แต่การนำเข้าในแต่ละประเทศก็ลดลงมาก ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงมาก โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกมีราคาต่ำ ลดลงจาปี 2557 มาก ทั้ง ราคาข้าว ยางพารา น้ำตาล รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ราคาปรับลดลงมาจากปีก่อนกว่า 50% และมีแนวโน้มราคาจะไม่ปรับขึ้นจนกระทั่งปลายปี ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมายอดส่งออกรถยนต์ของไทยลดลงจาก การปรับเปลี่ยนรุ่น ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยหายไปมาก แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าสถานการณ์หลังจากนี้การส่งออกรถยนต์จะกลับมาเป็นปกติ
สำหรับ เป้าหมายคาดการณ์ส่งออก -3% ของกระทรวงพาณิชย์ อยู่บนสมมติฐานที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ราคาอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล ซึ่งราคาน้ำมันดิบปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล และน่าจะคงราคาประมาณนี้ไปถึงปลายปี อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอยู่ที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ราคาสินค้าเกษตรมีการปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน แต่จะต่ำกว่าเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10% ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเป็นไปตามคาดการณ์ของ IMF ที่ประมาณ 3.3% แต่สมมติฐานใหม่ยังไม่ได้ร่วมเรื่องของปัจจัยเสี่ยง IUU และเยร์ 3 เอาไว้ ทั้งนี้ ตามคาดการณ์ส่งออกใหม่ของกระทรวงฯ มูลค่าการส่งออกจะลดลงจากปีก่อน 6,826 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายใหม่ช่วง 6 เดือนที่เหลือจากนี้ จะต้องทำการส่งออกให้ได้ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน
"แม้การส่งออกจะติดลบ แต่ไทยก็ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดในหลายประเทศเอาไว้ได้ แต่การที่ส่งออกติดลบ เพราะราคาสินค้าลดลง แต่ในส่วนปริมาณยังเท่าเดิม หรือบางตลาดมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ทั้งนี้การที่ไทยยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากสถานการณ์โลกดีขึ้น ก็น่าจะทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ส่งออกของไทยไม่ได้แย่สุด หากเทียบกับหลายๆประเทศ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ ทำให้ส่งออกของทั่วโลกติดลบ และการคาดการณ์ของประเทศในอาเซียนก็คาดไว้ติดลบ เช่น สิงคโปร์ คาด -13% มาเลเซียคาด –12% แต่ทั้งนี้เวียดนามยังคาดการณ์ส่งออกเป็นบวก"