WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOC-Somkiatพณ.ยอมรับปี’57 ส่งออกลบ 3% อ้างราคาสินค้าตกต่ำกดตัวเลขมูลค่าร่วง

      แนวหน้า : นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนย.) เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2558 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.2% เหลือ -3% มีมูลค่า 220,698 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อน 6,826 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้แม้บางประเทศจะสัญญาณดีขึ้นบ้าง เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น แต่การนำเข้าในแต่ละประเทศก็ลดลงมาก ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงมาก โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกมีราคาต่ำ ลดลงจากปี 2557 มาก ทั้งราคาข้าว ยางพารา น้ำตาล รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ราคาปรับลดลงมาจากปีก่อนกว่า 50% และมีแนวโน้มราคาจะไม่ปรับขึ้นจนกระทั่งปลายปีประกอบกับในช่วงที่ผ่านมายอดส่งออกรถยนต์ของไทยลดลงจากการปรับเปลี่ยนรุ่น ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยหายไปมาก

     สำหรับ เป้าหมายคาดการณ์ส่งออก -3% ของกระทรวงพาณิชย์ อยู่บนสมมุติฐานที่ราคาน้ำมันดิบดูไบราคาอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันดิบปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และน่าจะคงราคาประมาณนี้ไปถึงปลายปี อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอยู่ที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ราคาสินค้าเกษตรมีการปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน แต่จะต่ำกว่าเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10% ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเป็นไปตามคาดการณ์ของ IMF ที่ประมาณ 3.3%

     “แม้การส่งออกจะติดลบ แต่ไทยก็ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดในหลายประเทศเอาไว้ได้ แต่การที่ส่งออกติดลบ เพราะราคาสินค้าลดลง แต่ในส่วนปริมาณยังเท่าเดิม หรือบางตลาดมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ส่งออกของไทยไม่ได้แย่ที่สุด หากเทียบกับหลายๆ ประเทศ เช่น สิงคโปร์ คาด -13% มาเลเซียคาด -12%ยกเว้นเวียดนามยังคาดว่าส่งออกเป็นบวก

      ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีมาตรการผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีไว้ โดยจะเน้นเรื่องของการค้าชายแดน การเดินหน้าโรดโชว์ในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งการขยายตลาดเดิม และเพิ่มตลาดใหม่ ซึ่งจะเจาะไปเป็นรายสินค้า รายตลาดมากขึ้น และยังเดินหน้าทำตามแผนปฏิบัติการ หรือaction plan อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้กระทรวง พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ หรือตัวแทน จะนำคณะเดินทางไปโรดโชว์ในหลายประเทศ ทั้งในยุโรป และเอเชีย เช่น ปากีสถาน จีน เป็นต้น ส่วนการประชุมทูตพาณิชย์จะมีขึ้นในเดือนก.ย.นี้

     “ส่วนค่าเงินบาทที่ปรับลดลงมาตอนนี้เหลือประมาณ 34 บาทต่อเหรียญสหัรฐ แน่นอนว่ามีผลต่อการส่งออก แต่อาจไม่ได้ส่งผลให้เห็นได้ในทันที แต่คงต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนถัดไป อาจแสดงผลออกมา

       ด้านนายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การประมาณการส่งออกนั้น ธปท. จะมีการปรับใหม่อีกครั้งวันที่ 25 กันยายน 2558 อย่างไรก็ตาม จากการที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยปี 2558 เป็นติดลบ 3% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 1.2% ธปท.คาดว่าทิศทางการปรับประมาณการทั้งปีน่าจะสอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง โดยประเด็นที่ทำให้ ธปท. ปรับประมาณการมูลค่าการส่งออกลงมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะจีนที่เป็นตลาดส่งออกหลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบทางตรงต่อไทยทั้งยังส่งผลกระทบทางอ้อม ผ่านการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาเซียนที่มีจีนเป็นตลาดส่งออกหลักเช่นกัน นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลกที่ปรับลดลงมากกว่าที่คาดยังมีส่วนให้ราคาส่งออกหดตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ รวมถึงส่งผลให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และอาเซียนชะลอตัวเพิ่มนอกเหนือจากปัจจัยการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

      ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับลดเป้าส่งออกของกระทรวงพาณิชย์จาก 1.2% เหลือ -3% ถือว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ขององค์กรต่างๆ ซึ่งรวมถึงคาดการณ์ของหอการค้าไทยด้วย ที่ได้ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปี 2558 เหลือ -3% ถึง-4% เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะ อียูจีน และญี่ปุ่น ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันมีกำลังซื้อลดลง ส่วนกรณีค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาอยู่ในระดับ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐคงไม่ได้ส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าส่งออกไทยได้มากนักเนื่องจากผู้ส่งออกประเทศอื่นๆ ก็มีค่าเงินอ่อนลงเช่นกัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!