WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TNCSนพพร เทพสทธาประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ มอง กรณีสหรัฐฯ คงอันดับค้ามนุษย์ที่ Tier3 กระทบภาพพจน์ไทย-เดินหน้าแก้ไขต่ออย่างจริงจัง

    นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่าน สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เช้านี้ ถึง กรณีที่สหรัฐฯ ยังคงอันดับสถานการณ์ค้ามนุษย์ (TIP Report) โดยยังคงอันดับไว้ที่เกรด 3 หรือ Tier3 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีสถานการณ์ค้ามนุษย์ระดับเลวร้ายที่สุดว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้กระทบการการส่งออกของภาคเอกชนไทยไปสหรัฐ และไม่ได้อยู่นอกเหนือไปจากที่คาด เพราะแม้ไทยจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการแก้ไขปัญหา แต่สหรัฐฯ อาจมองว่าอยากเห็นไทยทำให้ดีมากกว่านี้ และทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก  เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างแท้จริงและถาวร เพราะปัญหานี้เรื้อรังมานานหลายรัฐบาลแต่ไทยเพิ่งจะมาแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจังในรัฐบาลชุดนี้  

   "เราเพิ่งจะเริ่มทำกันจริงจังในรัฐบาลชุดนี้ เอกชนเองก็เห็น แต่เรื่องนี้สะสมมานานหลายปี ดังนั้น จะแก้ได้เลยก็คงไม่ใช่  ก็มองว่า สหรัฐฯ เขาก็คงมองเช่นนั้น คือแค่อยากให้เราทำต่อไป นี่คือสัญญาณที่เขาส่งมา คือให้ทำให้ดีขึ้นไปอีก" นายนพพร กล่าว

   อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อประเทศไทย จากการคงอันดับ Tier 3 จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อภาพลักษณ์ของไทยมากกว่า  จากเดิมที่ถูกมองในหลายประเด็นอยู่แล้ว

  "ที่ห่วงคือ ภาพพจน์ของไทยในระยะยาว เพราะต่างประเทศพูดถึงไทยหลายเรื่อง ทั้งโรฮิงญา เรื่องชาวอุยกูร์ รวมถึงเรื่องต่อต้านประมงผิดกฏหมาย หรือ  IUU สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อการส่งออกของไทยในระยะยาว แต่ระยะสั้นอาจยังไม่มีอะไร"นายนพพร กล่าว

 

รัฐบาลไทย เดินหน้าต่อต้านการค้ามนุษย์จริงจังแม้สหรัฐฯไม่ปลดจากเทียร์3

    กระทรวงการต่างประเทศ รายงานถึงท่าทีของประเทศไทยต่อการประกาศผลการจัดอันดับประเทศไทยใน TIP Report 2015 จากกรณีเมื่อวัน ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. (ตามเวลาสหรัฐฯ) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๕ โดยในปีนี้ประเทศไทยถูกจัดให้คงอยู่ที่ระดับ Tier 3 ของ TIP Report

    ทางการไทยรับทราบผลการจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ Tier 3 ซึ่งไม่สะท้อนความพยายามและความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยที่เกิดขึ้นจริงในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งมีก้าวหน้าอย่างมากในหลายด้าน

   ตั้งแต่รัฐบาลปัจจุบันเข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ รัฐบาลได้ ‘ปฏิรูป’การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบส่งผลให้เกิดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในทุกๆ ด้าน เช่น (๑) ด้านนโยบาย รัฐบาลได้ประกาศย้ำให้การต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติและจัดตั้งกลไกระดับชาติซึ่งมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาร่วมขับเคลื่อน มีการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (๒) ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มีการทลายเครือข่ายผู้กระทำผิดค้ามนุษย์รายสำคัญ มีการจับกุม ดำเนินคดีและลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ (๓) ด้านการป้องกัน มีการแก้ไขและจัดระเบียบแรงงานในภาคประมง รวมถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวจำนวนกว่า ๑.๖ ล้านคนให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเช่นเดียวกับคนไทย และแก้ปัญหาที่ต้นทางโดยลดความเสี่ยงที่แรงงานเหล่านี้จะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และการถูกเอาเปรียบ  (๔) ด้านการคุ้มครอง การเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกและการดูแลคุ้มครองผู้เสียหาย (๕) ด้านความร่วมมือและการสร้างความเป็นหุ้นส่วน ประเทศไทยได้มีบทบาทนำทั้งในกรอบทวิภาคีและภูมิภาคในการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์บนพื้นฐานของหลักสิทธิมนุษยชนและความมั่นคง

    อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างจริงจังต่อไป เพื่อความมั่นคงและมนุษยธรรม พร้อมกับเพิ่มพูนความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ตลอดจนขยายความร่วมมือกับประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่อไป

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!