- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 25 July 2015 22:11
- Hits: 5939
ไทย-เวียดนามร่วมมือขยายการค้า ตั้งเป้าปี’63 แตะ 2 หมื่นล้านเหรียญ
แนวหน้า : ไทย-เวียดนามร่วมมือขยายการค้า l ตั้งเป้าปี’63 แตะ 2 หมื่นล้านเหรียญ l ดึงเอกชนเข้าลงทุนเขตศก.พิเศษ
ไทยหารือ เวียดนาม ตั้งเป้าปี’63 ขยายการค้าระหว่างกันให้ถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พัฒนาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรร่วมกัน รมว.พาณิชย์สั่งทบทวนเป้าส่งออก 1.2% หลังเจอปัญหาเศรษฐกิจโลก ภัยแล้งกระหน่ำ
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ระหว่างไทยกับเวียดนาม ครั้งที่ 2 ว่า ไทยและเวียดนามเห็นชอบที่จะขยายการค้าระหว่างกันให้มีมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 จากในปี 2557 ที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และล่าสุดในช่วง 5 เดือนแรกปี 2558 (มกราคม-พฤษภาคม)ทั้ง 2 ฝ่ายมีมูลค่าการค้าระหว่างกันแล้ว 5,107 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว14.98% จากช่วงเดียวกันในปี 2557
รวมถึงไทย และเวียดนามยังมีแผนรับรองเรื่องการค้า การลงทุนระหว่างกัน ในช่วงปี 2558-2563 ให้คล่องตัวมากขึ้นโดยเน้นวางเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการลงทุน และอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะระบบขนส่ง และคมนาคมทางถนน และความร่วมมือด้านการธนาคาร ที่จะส่งเสริมการเข้าไปจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ในประเทศของอีกฝ่าย รวมทั้งยังสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการทำธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เชิญชวนภาคเอกชนเวียดนามเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันในภูมิภาค
นอกจากนี้ เวียดนามยังยินดีและกำลังพิจารณาที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกไตรภาคียางพารา หรือ IRCO ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยก็พร้อมสนับสนุนเวียดนามให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เชื่อว่าหากเวียดนามเข้าร่วมเป็นสมาชิกจะช่วยให้ราคายางพารามีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะจะทำให้เกิดอำนาจในการกำหนดปริมาณผลผลิตและราคา
ขณะที่ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรอื่นๆ ในที่ประชุมก็ได้หารือแนวทาง ในการพัฒนาคุณภาพ และสร้างมาตรฐานมูลค่าให้สินค้าเกษตรทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องข้าวที่ต้องการให้จับมือกันในเรื่องการส่งออก จากที่เคยเป็นประเทศคู่แข่งทางการค้า อีกทั้งเวียดนาม และไทยยังตกลงจะมีการนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างกัน เนื่องจากหลังจากที่ผ่านมามีผลกระทบการส่งออกผลไม้ไทย 4 ชนิด หยุดชะงักไปนาน 4-5 ปี และตอนนี้ก็อยู่ในกระบวนการจัดทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช และจากนั้นเชื่อว่าจะมีการค้าขายระหว่างกันอีกครั้ง โดยผลไม้ 4 ชนิดที่ ไทย ต้องการส่งออกไปเวียดนามได้แก่ มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ และเงาะ ส่วนผลไม้ 3 ชนิด ที่เวียดนามต้องการส่งมาไทย ได้แก่ มะม่วง ลำไย และลิ้นจี่
อย่างไรก็ตาม เวียดนามถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 4 ไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทยในโลก ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของเวียดนามในด้านการนำเข้า และเป็นอันดับที่ 12 ในด้านการส่งออก โดยในปี 2557 ไทยและเวียดนามมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 11,826.12 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกสินค้าไปเวียดนามเป็นมูลค่า 7,888.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการนำเข้า 3,937.62 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee:JTC) ระหว่างไทยกับเวียดนาม ครั้งที่ 2 ได้จัดการประชุมขึ้นที่ประเทศไทย โดยมีพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และนายหวู ฮวี ฮว่าง รมว.อุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เป็นประธานร่วมการประชุมทั้ง2 ฝ่าย พร้อมด้วยคณะผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมประชุม
พลเอกฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่าได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปทบทวน พิจารณาเรื่องเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2558ใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1.2%อาจต้องปรับลดลงมาหรือไม่ โดยประเมินจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ภาวะภัยแล้ง ขณะนี้ดูว่าการส่งออกได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบผลประเมิน แต่ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ก็ยังจะพยายามผลักดัน และตั้งเป้าส่งออก 1.2% ไว้เป็นเป้าหมายการทำงาน
