- Details
-
Category: พาณิชย์
-
Published: Saturday, 04 July 2015 17:54
-
Hits: 2505
กระทรวงพาณิชย์ จับมือ กลุ่มเซ็นทรัล เปิดโครงการติดอาวุธทางการตลาด หนุนเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตสู่โมเดิร์นเทรด
กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์ จังหวัดอุดรธานี ผนึกพันธมิตร กลุ่มเซ็นทรัล ผุดโครงการติดอาวุธทางการตลาด เพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพและความพร้อม แต่ยังขาดโอกาสและช่องทางในการกระจายสินค้า พร้อมเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านการตลาดให้กับผู้ประกอบการ ร่วมสร้างโอกาสในการเติบโตสู่โมเดิร์นเทรด
ในการพัฒนาเศรษฐกิจปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า SME ถือเป็นกลไกสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจหลายประเทศ ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนของผู้ประกอบการ SME และ OTOP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก SME จึงไม่ได้เป็นเพียงกิจการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับประเทศ แต่ยังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในระดับธุรกิจภาคประชาชนที่นำไปสู่การกระจายรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็ง ต่อระบบเศรษฐกิจและสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความรู้และประสบการณ์ ทำให้เกิดปัญหาด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขาดโอกาส และช่องทางในการกระจายสินค้าไปสู่ภาคประชาชน
ดวงกมล เจียมบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ริเริ่มการดำเนินงานโครงการติดอาวุธทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพและความพร้อม แต่ยังขาดโอกาสและช่องทางในการกระจายสินค้า โดยดำเนินการร่วมกับ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ในการเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านการตลาดให้กับผู้ประกอบการ พร้อมสร้างโอกาสในการเติบโตสู่โมเดิร์นเทรด
โครงการติดอาวุธทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SME และ OTOP จากทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 ซึ่งผู้ประกอบการ SME และ OTOP ที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้ประกอบการ SME หรือ OTOP ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลายประเภท ที่ไม่ใช่ในลักษณะของงานให้บริการ
2. เป็นผู้ประกอบการ SME หรือ OTOP ที่มีสถานประกอบการอยู่ในประเทศไทย และต้องจดทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์ โดยเจ้าของคนไทย
3. เป็นผู้ประกอบการ SME หรือ OTOP ที่ดำเนินกิจการมาไม่น้อยกว่า 3ปี นับตั้งแต่วันที่จะทะเบียนการค้าจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ จะต้องส่งประวัติและตัวอย่างผลงานผลิตภัณฑ์ของตนเองมายังโครงการ เพื่อให้คณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาคัดเลือก โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆ อาทิ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความพร้อมของการผลิตสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับสิทธิพิเศษในการทดลองวางขายสินค้าผ่านช่องทางของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
กระทรวงพาณิชย์ มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดโครงการติดอาวุธทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME และ OTOP ไทย เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเอง มีช่องทางในการต่อยอดธุรกิจ สามารถขยายกิจการและก้าวสู่การแข่งขันในระดับโลกต่อไปในอนาคตได้
ด้าน บุษบา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้เล็งเห็นความสำคัญในสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs โอท็อป ให้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างตลาดของธุรกิจเอสเอ็มอีให้มี ความเข้มแข็ง โดยผู้ประกอบการที่ ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ ติดอาวุธทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย จะได้รับสิทธิพิเศษในการทดลองวางขายสินค้าผ่านช่องทางของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
“โครงการ ติดอาวุธทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผู้ประกอบการไทย จะทำให้ผู้ประกอบการมีกำลังใจในการปรับปรุงพัฒนา คุณภาพผลิตภัณฑ์สินค้าให้มีคุณภาพดีขึ้น และเมือได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงาน ได้ประสบการรณ์จากห้างฯ ขนาดใหญ่ จะทำให้เกิดการต่อยอดในความคิดสร้างสรรค์ และ การส่งต่อในธุรกิจเอสเอ็มอี ทางกลุ่มเซ็นทรัลมีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งในเรื่องความรู้เรื่องการผลิต การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ เป็นคอลเลคชั่นต่างๆ ฯลฯ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจ SMEs Otop ให้มีความแข็งแกร่งในช่องทางโมเดิร์นเทรดต่อไป”รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าว
ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ฉัตรฑริกา ศิลวัฒนานุสานติ์ โทร. 086-777-3794, 02-933-6873 e-mail : [email protected]