WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBDกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับพันธมิตร บุกพื้นที่ท่องเที่ยว เร่งสแกนนอมินี พบใครผิดต้องรับโทษอย่างหนัก

   กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือพันธมิตรลงพื้นที่ปราบปรามนอมินีท่องเที่ยว ลุยมาแล้วอย่างต่อเนื่อง 5 จังหวัด พบต้องสงสัย 9 ราย ลั่น!! หากตรวจสอบเชิงลึกแล้วพบว่ามีความผิดจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และพร้อมลงตรวจพื้นที่เดิมซ้ำหากมีเบาะแส

  นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหานอมินี กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โดยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการและมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าซึ่งมีภารกิจโดยตรงในการกำกับดูแลธุรกิจให้มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล เป็นผู้แทนในการดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง กรมฯ จึงได้สร้างความร่วมมือจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ระหว่าง 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยตกลงร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหานอมินีท่องเที่ยวในประเทศไทยให้หมดไป

  จากการลงนาม MOU ที่ผ่านมาหน่วยงานพันธมิตรได้ร่วมกันอย่างจริงจังโดย ‘จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา’ ใน 4 ด้านคือ มาตรการด้านการจดทะเบียน กำหนดให้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมการท่องเที่ยวในฐานะผู้รับผิดชอบก่อน จึงจะสามารถจดทะเบียนนิติบุคคลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อให้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ ซึ่งขณะนี้กรมการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ การเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียนไปยังกรมการท่องเที่ยว เพื่อให้กรมการท่องเที่ยวสามารถดูแลคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจไปแล้วได้อย่างต่อเนื่อง การคัดกรองและตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าขายนอมินี เป็นการนำข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานได้รับมากำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อตรวจสอบร่วมกัน ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มที่เข้าข่ายเป็นนอมินีได้อย่างแท้จริง และการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งได้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ

   ขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตามแผนปฏิบัติการมาโดยตลอดตั้งแต่เดือนม.ค.58 -ปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการไปแล้วใน 5 จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี (พัทยา) สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และเชียงใหม่ (อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ) จากผลการตรวจสอบข้อมูลพบธุรกิจมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีจำนวน 9 ราย อยู่ระหว่างสรุปสำนวนเพื่อส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

   สำหรับ แผนการลงพื้นที่ในครั้งต่อไปในเดือนกรกฏาคม 2558 จะไปที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งขณะนี้ได้ คัดกรองธุรกิจกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นแล้วจำนวน 81 ราย ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิดก็จะส่งดำเนินคดี ถึงที่สุดทุกราย เพื่อปราบปรามไม่ให้มีการใช้ตัวแทนอำพรางและอาจลงพื้นที่เดิมซ้ำหรือพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมหากพบว่ามีข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินี

  ทั้งนี้ กรมฯ จึงขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คน ต่างด้าวสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งคนต่างด้าวที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน รวมทั้งกรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดด้วย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐- ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ ๑๐,๐๐๐ – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!