WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOC1รมว.พาณิชย์ เร่งศึกษาผลกระทบของการจัดทำ FTAAP ในที่ประชุมเอเปค คาดนำเสนอผลการศึกษาภายในปีหน้า

     พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2558 ณ เกาะโบราไคย์ ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับสมาชิกเอเปคอีก 21 เขตเศรษฐกิจ โดยมีประเด็นหลักที่เอเปคให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้ คือการผลักดันให้ SMEs เข้าสู่ตลาดโลก รวมทั้งการเร่งรัดการศึกษาและแผนงานเพื่อนำไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีของเอเปค ซึ่งมีการริเริ่มไว้ตั้งแต่ 2550 ให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

   พลเอกฉัตรชัยฯ กล่าวว่า “ผมได้มีโอกาสพูดในที่ประชุมว่าเรื่อง SME มีการพูดคุยกันมานานและทุกประเทศก็เห็นถึงความสำคัญของ SME เพราะเป็นพลังขับเคลื่อนของเศรษฐกิจอย่างแท้จริง แต่ผมเห็นว่า การขับเคลื่อนอย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้น ผมจึงเสนอให้ทุกประเทศสนับสนุนให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูล แหล่งเงินทุน เทคโนโลยี และผมเห็นว่า การสนับสนุน SME ให้ใช้โอกาสของ internet ในการทำธุรกิจมีความจำเป็นมาก ผมยังได้แจ้งที่ประชุมว่าเราอาสาทำการศึกษาเรื่องการนำ SME ในสาขาเกษตรเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตอาหารของโลก ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญและพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสมาชิกเอเปค นอกจากนี้ ผมได้พูดในที่ประชุมว่านายกรัฐมนตรีของไทยให้ความสำคัญต่อ SME กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ทุกประเทศได้สนับสนุน SME ของไทยด้วย ในส่วนของการทำเขตการค้าเสรีเอเปค หรือที่เรียกว่า เขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิค (Free Trade Area of the Asia-Pacific : FTAAP) ที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 เอเปคได้มีการทำแผนงานเพื่อนำไปสู่การเจรจา โดยปีนี้ ได้เน้นเร่งศึกษาผลกระทบของการจัดทำ FTAAP และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การเจรจาให้มีผลโดยเร็ว คาดว่าจะสามารถนำเสนอผลการศึกษาได้ภายในปีหน้า”

    พลเอกฉัตรชัยฯ เปิดเผยต่อไปว่า “นอกจากสองเรื่องข้างต้นที่ปีนี้เอเปคให้ความสำคัญแล้ว ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคยังได้รับรองแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค ซึ่งจะเป็นเสมือนพิมพ์เขียวให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการต่อโดยเฉพาะในเรื่องลดต้นทุนการค้าที่เกิดจากกฎระเบียบ โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ได้อย่างน้อย 10% ภายในปีนี้ การจัดทำฐานข้อมูลการค้าเอเปค การปรับประสานการทำงานในเรื่องการค้าบริการที่กระจายอยู่ในกลุ่มต่างๆ ให้สอดประสานกัน การลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม 54 รายการให้เหลือภาษีไม่เกิน 5% ภายในสิ้นปี และจัดทำคู่มือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วในภาวะเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากภูมิภาคนี้มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทั้งจากแผ่นดินไหว ไต้ฝุ่นและน้ำท่วม”

    เอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจ คือ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป สหรัฐฯ เวียดนาม และไทย โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคปี 2565

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!