- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 25 May 2015 22:13
- Hits: 1600
รมว.พาณิชย์ เร่งศึกษาผลกระทบของการจัดทำ FTAAP ในที่ประชุมเอเปค คาดนำเสนอผลการศึกษาภายในปีหน้า
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2558 ณ เกาะโบราไคย์ ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับสมาชิกเอเปคอีก 21 เขตเศรษฐกิจ โดยมีประเด็นหลักที่เอเปคให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้ คือการผลักดันให้ SMEs เข้าสู่ตลาดโลก รวมทั้งการเร่งรัดการศึกษาและแผนงานเพื่อนำไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีของเอเปค ซึ่งมีการริเริ่มไว้ตั้งแต่ 2550 ให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
พลเอกฉัตรชัยฯ กล่าวว่า “ผมได้มีโอกาสพูดในที่ประชุมว่าเรื่อง SME มีการพูดคุยกันมานานและทุกประเทศก็เห็นถึงความสำคัญของ SME เพราะเป็นพลังขับเคลื่อนของเศรษฐกิจอย่างแท้จริง แต่ผมเห็นว่า การขับเคลื่อนอย่างจริงจังยังไม่เกิดขึ้น ผมจึงเสนอให้ทุกประเทศสนับสนุนให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูล แหล่งเงินทุน เทคโนโลยี และผมเห็นว่า การสนับสนุน SME ให้ใช้โอกาสของ internet ในการทำธุรกิจมีความจำเป็นมาก ผมยังได้แจ้งที่ประชุมว่าเราอาสาทำการศึกษาเรื่องการนำ SME ในสาขาเกษตรเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตอาหารของโลก ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญและพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสมาชิกเอเปค นอกจากนี้ ผมได้พูดในที่ประชุมว่านายกรัฐมนตรีของไทยให้ความสำคัญต่อ SME กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ทุกประเทศได้สนับสนุน SME ของไทยด้วย ในส่วนของการทำเขตการค้าเสรีเอเปค หรือที่เรียกว่า เขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิค (Free Trade Area of the Asia-Pacific : FTAAP) ที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 เอเปคได้มีการทำแผนงานเพื่อนำไปสู่การเจรจา โดยปีนี้ ได้เน้นเร่งศึกษาผลกระทบของการจัดทำ FTAAP และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การเจรจาให้มีผลโดยเร็ว คาดว่าจะสามารถนำเสนอผลการศึกษาได้ภายในปีหน้า”
พลเอกฉัตรชัยฯ เปิดเผยต่อไปว่า “นอกจากสองเรื่องข้างต้นที่ปีนี้เอเปคให้ความสำคัญแล้ว ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคยังได้รับรองแถลงการณ์รัฐมนตรีการค้าเอเปค ซึ่งจะเป็นเสมือนพิมพ์เขียวให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการต่อโดยเฉพาะในเรื่องลดต้นทุนการค้าที่เกิดจากกฎระเบียบ โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ได้อย่างน้อย 10% ภายในปีนี้ การจัดทำฐานข้อมูลการค้าเอเปค การปรับประสานการทำงานในเรื่องการค้าบริการที่กระจายอยู่ในกลุ่มต่างๆ ให้สอดประสานกัน การลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อม 54 รายการให้เหลือภาษีไม่เกิน 5% ภายในสิ้นปี และจัดทำคู่มือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วในภาวะเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากภูมิภาคนี้มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทั้งจากแผ่นดินไหว ไต้ฝุ่นและน้ำท่วม”
เอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจ คือ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป สหรัฐฯ เวียดนาม และไทย โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคปี 2565
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย