- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 17 May 2015 09:27
- Hits: 1988
พณ.จ่อระบายข้าวโพดเก่า9หมื่นตัน พร้อมถกโรงสกัดปาล์มแก้ราคาตก
แนวหน้า : พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการเป็นประประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์(นบขพ.) ว่า ที่ประชุมมีมติเตรียมให้มีการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสต็อกของรัฐบาล ตามมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2551/52 ปริมาณ 94,168 ตัน โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และวิเคราะห์คุณภาพข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขึ้นมา เพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสต็อกว่ามีความพร้อมใช้ในการระบายได้หรือไม่ มีความปลอดภัยในการนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารสัตว์ หรือนำไปใช้ในอุตสาหกรรมได้หรือไม่ ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะดำเนินการตรวจสอบในทุกขั้นตอนให้แล้วเสร็จภาย 45 วัน และภายหลังจากการตรวจสอบจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะสามารถระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป ได้หรือไม่
สำหรับ สถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2558/59 คาดว่าการผลิตข้าวโพดฯ จะมีเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือมีผลผลิตประมาณ 4.81 ล้านตัน ตามการคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 0.11% ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านตัน ส่วนสถานการณ์ราคา ขณะนี้ข้าวโพดฯ (ความชื้น 30%) เกษตรกรขายได้ราคาเฉลี่ย ก.ก.ละ 6.91 บาท, ข้าวโพดฯ (ความชื้น 14.5%) เกษตรกรขายได้ราคาเฉลี่ย ก.ก.ละ 8.90 บาท และข้าวโพดฯ (เกรด 1-2 ความชื้น 14.5%) ราคาที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อ ที่เฉลี่ย ก.ก.ละ 9.52 บาท
ทั้งนี้ จากกรณีที่ 3 บริษัท ได้แก่ หจก.นครสวรรค์เบญจศิริกิจ บริษัท ลิ้มศักดากุล อุตสาหกรรมการเกษตร (ไทยแลนด์) และบริษัท เอิร์ท เฟรซ ที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.-31 ธ.ค.56 ปริมาณ 5 แสนตัน ซึ่งได้ขอเงินชดเชยค่าดำเนินการส่งออกจากรัฐบาลจำนวน 60 ล้านบาท ซึ่งในที่ประชุมมีมติ ไม่อนุมัติคำขอของ 3 บริษัท เนื่องจากทั้ง 3 บริษัท ไม่สามารถส่งออกข้าวโพดได้ทันตามกำหนดในวันที่ 31 ธ.ค.57 จึงไม่สามารถที่จะอนุมัติการช่วยเหลือตามคำขอนี้ได้
อีกทั้ง รมว.พาณิชย์ ยังได้เชิญโรงสกัดน้ำมันปาล์มมาหารือ เพื่อขอความร่วมมือให้รับซื้อผลปาล์มดิบเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ที่ราคา ก.ก.ละ 4.20 บาท จากเดิมที่ได้กำหนดไว้ให้รับซื้อที่ ก.ก.ละ 4 บาท เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มต้องการให้ราคาผลปาล์มดิบที่ขายให้หน้าลานเทอยู่ที่ ก.ก.ละ 4 บาท จากเดิมที่ลานเทรับซื้อเพียง ก.ก.ละ 3.80 บาท ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขยับราคารับซื้อผลปาล์มดิบหน้าหน้าโรงสกัดขึ้นมา เพื่อขยับให้ลานเทเข้ามาซื้อในราคาที่เกษตรกรต้องการ โดยภายหลังการหารือ ทางโรงสกัด และลานเท จะรับซื้อผลปาล์มดิบเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ที่ราคา ก.ก.ละ 4.20 บาท แต่เนื่องจากลานเทจะมีคิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ดังนั้น การขายผลปาล์ม ณ ลานเท จะได้ราคาที่ต่ำกว่า 4.20 บาท หรือได้ประมาณ ก.ก ละ 4 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางการขนส่ง โดยข้อสรุปดังกล่าวจะมีผลบังคบใช้ทันที ตามประกาศราคาแนะนำของกรมการค้าภายใน แต่อย่างไรก็ตามข้อสรุปที่ได้ก็จะนำเข้าเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน(กนป.) ให้รับทราบและพิจารณา เพื่อกำหนดมาตรการราคารับซื้อผลผลิตปาล์มตามข้อสรุปดังกล่าวต่อไป ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบที่โรงกลั่นรับซื้อจากโรงสกัดก็จะขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ก.ก. 26.25 บาท
“แม้ว่า จะมีการขยับราคารับซื้อผลปาล์มดิบขึ้นมา แต่ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดยังสามารถขายได้ไม่เกินราคาเพดานควบคุมที่ 42 บาทต่อขวด แต่ทั้งนี้ในอนาคตก็อาจต้องมีการทบทวนในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน”