- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 16 May 2015 00:02
- Hits: 2235
กรมพัฒนาธุรกิจฯจูงใจเอสเอ็มอี จ่อเปลี่ยนกฎเอื้อตั้งนิติบุคคล
แนวหน้า : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนาย Liu Yuting รัฐมนตรีช่วยว่าการ State Administration for Industry and Commerce (SAIC) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า นับจากไทยได้มีการลงนามใน MOU กับจีน ตั้งแต่ปี 2555 ทั้งสองฝ่ายได้มีการประชุมหารือความร่วมมือในด้านต่างๆ เป็นครั้งแรก ทั้งการเชื่อมโยงการค้าไทย-จีน, แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านทะเบียนธุรกิจ และการส่งเสริมสินค้าและบริการด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งในส่วนของงานจดทะเบียนธุรกิจ ก็ได้มีการแลกเปลี่ยน แนวทางการลดขั้นตอนในการจดทะเบียนธุรกิจให้รวดเร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก ให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ได้เข้ามาสู่ระบบการจดทะเบียนธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยในส่วนของจีนนั้นปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นเพียง 1 คน ก็สามารถจัดตั้งเป็น บริษัท นิติบุคคลได้แล้ว
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับ การแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะเครื่องหมายการค้า ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีบริษัทของไทยไปยื่นจดเครื่องหมายการค้าไทยในจีน จำนวน 7,684 เครื่องหมาย โดยทางการจีนอนุมัติไปแล้วจำนวน 4,771 เครื่องหมาย โดย ผู้ประกอบการไทยอยู่ในอันดับที่ 26 ของนักธุรกิจต่างชาติทั้งหมด โดยที่ผ่านมา มีปัญหาเครื่องหมายการค้าไทยถูกละเมิดในจีนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็น สินค้าข้าว อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่ม ทำให้ผู้ประกอบการไทย เสียทั้งเงินและเวลา จึงต้องการให้รัฐบาลจีนเร่งแก้ปัญหาการละเมิดโดยแจ้งเตือนบริษัทจีนที่ละเมิดก่อน เพื่อยุติปัญหา ให้ได้ ก่อนที่จะจัดการดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อไม่ต้องเสียเวลาซึ่งฝ่ายจีนได้เห็นด้วยกับแนวทางนี้
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ขณะนี้ กรมฯ ได้ให้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาแนวทางการอนุญาต ให้การจัดตั้งนิติบุคคล สามารถทำได้โดยมีเพียงผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียว โดยผลการศึกษาทั้งหมดจะสรุป ในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะมีการศึกษาเปรียบเทียบกับต่างประเทศ เพื่อให้มีความเป็นสากล โดยการที่จะอนุญาตให้มีบุคคลเพียงคนเดียว สามารถมาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลได้ เนื่องจากจะทำให้การประกอบ ธุรกิจได้ง่ายขึ้น และลดปัญหาเรื่องการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น กรณีที่ธุรกิจนั้นลงทุนโดยคนคนเดียว จากปัจจุบันที่อาจจะต้อง เอาชื่อ พ่อแม่ พี่น้อง เข้ามาใส่ ในการจดทะเบียน
สำหรับ กฎเกณฑ์การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในตอนนี้ของไทย จะต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 คน และหากเป็นหาหุ้นส่วนจำกัดต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน และจะต้องมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้น แต่หากมีคนเดียวก็จะลดขั้นตอนเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ใหม่ จะทำให้ เอสเอ็มอี เข้ามาจดทะเบียนอยู่ในระบบมากขึ้น จากจำนวนเอสเอ็มอีที่มีอยู่ขณะนี้จำนวน 2.5 -2.7 ล้านราย แต่ที่เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลมีเพียง 6 แสนรายเท่านั้น หากทำให้เอสเอ็มอีที่ลงทุนคนเดียว เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น ก็จะส่งผลดี ในเรื่องการปรับปรุงให้มีระบบบัญชีที่ได้ตามมาตรฐานมากขึ้นและ มีการจัดทำงบการเงินชัดเจน รวมทั้งการจัดเก็บภาษีที่เป็นระบบ โดยเอสเอ็มอีจะมีศักยภาพมากขึ้น และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ได้ง่ายขึ้น
สำหรับ ไทยมีความร่วมมือการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางรัฐบาลจีน ที่จะนำแนวทางการปฏิบัติงานในการจดทะเบียนธุรกิจมาปรับใช้กับไทย โดยปีที่ผ่านมามีธุรกิจไทยไปจดทะเบียน จัดตั้งบริษัทในจีน จำนวน 720 บริษัท คิดเป็นมูลค่าลงทุน 17,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนปีก่อนจีน มาจดทะเบียน จัดตั้งธุรกิจในไทยจำนวน 1,696 ราย เพิ่มขึ้นจาก 1,595 ราย ในปี 2556ส่วนในปีนี้ มีการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้ง