- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 02 May 2015 09:19
- Hits: 1951
พาณิชย์ เตรียมออกประกาศราคาแนะนำซื้อปาล์มดิบ 4 บาท/กก.แก้ปัญหาราคาตกต่ำ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ร่วมกับโรงงานสกัด โรงกลั่น และตัวแทนเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่ากระทรวงจะออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) กำหนดราคาแนะนำซื้อผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% กิโลกรัม(กก.) ละ 4 บาท และเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นทุก 1% ราคาจะเพิ่มขึ้น 30 สตางค์ และกำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ กก.ละ 25 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
ในระหว่างนี้จะผ่อนผันให้มีการรับซื้อผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ได้ โดยเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 16% ต้องซื้อที่ กก.ละ 3.75 บาท และ 15% ที่ กก.ละ 3.50 บาท ซึ่งจะผ่อนผันเป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นจะกำหนดให้รับซื้อผลปาล์มสดที่ 17% หรือสูงกว่าเพียงอย่างเดียว โดยจะออกประกาศ กกร.กำหนดราคารับซื้อต่อไป และจะถือเป็นกฎหมาย ใครจะไม่ทำไม่ได้ จะมีโทษตามที่กำหนด
"ช่วงเปลี่ยนผ่านจะผ่อนผันให้เกษตรกรขายผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ได้อีก 3 เดือน ถ้าพ้น 3 เดือนไปแล้วโรงงานสกัด-โรงกลั่นจะซื้อผลปาล์มสดที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ไม่ได้ ใครซื้อผิดกฎหมายมีโทษ ส่วนเกษตรกรเอามาขายก็จะขายไม่ได้ เพราะไม่มีใครซื้อ"พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
สำหรับ การกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้รับความเห็นชอบทั้งจากตัวแทนเกษตรกร โรงงานสกัด และโรงกลั่น เพราะเป็นแนวทางการยกระดับราคาแบบยั่งยืน โดยใช้เกณฑ์คุณภาพเป็นตัวผลักดันราคาให้สูงขึ้น ซึ่งเกษตรกร ยืนยันว่าปัจจุบันการปลูกปาล์มสามารถได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเกิน 17% อยู่แล้ว หากรอให้สุกดีและไม่ตัดก่อนกำหนด
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) ช่วยรับซื้อผลปาล์มสดที่ กก.ละ 4 บาท เพื่อให้มีผู้ซื้อในตลาดเพิ่มขึ้น และช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภค ขณะนี้ยังกำหนดราคาเพดานไว้ที่ขวดลิตรละ 42 บาท แต่ราคาขายในตลาดขณะนี้ส่วนใหญ่ต่ำกว่าราคาที่กำหนด
ดิ้นแก้ปาล์ม-ผลไม้-กุ้งตกต่ำจัดคืนสุขเปิดเทอม 11 วันลดสูงสุด 70%
ไทยโพสต์ * รัฐดิ้นแก้ปาล์มตกต่ำ เตรียมเคาะ 2-3 แนวทางชงชุด "ประวิตร" อนุมัติ จับมือโมเดิร์นเทรดขายเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง ช่วยระบายผลผลิต แก้ราคาร่วง ผู้เลี้ยงกุ้งจี้ "บิ๊กตู่" ช่วยด่วน พาณิชย์จัดคืนสุขเปิดเทอม 11 วัน คาดลดรายจ่ายผู้ปกครอง 1.2 หมื่นล้านบาท
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 30 เม.ย.นี้ จะประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาผลผลิตปาล์มล้นตลาด และราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายผลปาล์มสด เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% ได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท จากราคาต้นทุน กก.ละ 3.38 บาท
เบื้องต้น มี 2-3 แนวทาง เช่น ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาเก็บไว้เพื่อรอจำหน่ายในช่วงผลผลิตขาดแคลน หรือการขอให้โรงกลั่น เพิ่มปริมาณการรับซื้อ หรือขอความร่วมมือผู้ผลิตไบโอดีเซล หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ.) เพิ่มปริมาณการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบให้มากขึ้น
เมื่อได้ข้อสรุป จะเสนอคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติต่อไปนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้ติดตามแผนการดำเนินงาน เพื่อรับมือผลไม้ล้นตลาด โดยเฉพาะเงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง ในภาคตะวันออก และลิ้นจี่ ในภาคเหนือ โดยได้หารือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งบิ๊กซี ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และเทสโก้ โลตัส เพื่อกระจายผลผลิตจากแหล่งผลิตออกสู่ตลาดปลายทาง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ
ทั้งนี้ บิ๊กซีจะนำผลไม้ไปจำหน่ายในห้างวันที่ 22-31 พ.ค.2558 ท็อปส์ วันที่ 27 พ.ค.-2 มิ.ย.2558 และเทสโก้ โลตัส วันที่ 19-23 พ.ค.2558
ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกุ้งไทย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ พิจารณาช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด หลังประสบวิกฤติปัญหาการเลี้ยง/เลี้ยงกุ้งไม่ได้ และถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาราคากุ้งตกต่ำ โดยมี 4 ข้อเสนอ คือ 1.ขอให้มี โครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไม ปี 2558 2.ให้เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ส่งออก ทั้งทางตรงและทางอ้อม 3.ช่วยแก้ปัญหาโรคกุ้งตายด่วน หรือโรค EMS และ 4.ขอให้กุ้งและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าที่ได้รับ การดูแลพิเศษจากภาครัฐ และให้บรรจุเรื่องกุ้งเป็นวาระแห่งชาติ
วันเดียวกัน กระทรวงพา ณิชย์ ร่วมกับผู้ผลิตสินค้าและผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่ง จัดงาน "เทใจ คืนสุข ต้อนรับเปิดเทอม" ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-10 พ.ค.2558 รวม 11 วัน นำสินค้ามาจำหน่ายต้อนรับเปิดเทอม เช่น ชุดนักเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ลดราคาตั้งแต่ 10-70% ในสาขาค้าปลีกกว่า 12,800 สาขาทั่วประเทศ เพื่อลดค่าครองชีพแก่ผู้ปกครองในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน คาดว่าช่วง 11 วัน จะมียอดจำหน่ายประมาณ 40,000 ล้านบาท และช่วยลดค่าครองชีพได้ประมาณ 30% หรือ 12,000 ล้านบาท.