- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 22 April 2015 15:19
- Hits: 1801
รมว.พาณิชย์ จ่อหั่นเป้าส่งออกปีนี้ คาดโตไม่ต่ำกว่า 1% ด้านเอกชน มองโตแค่ 0% ไตรมาสแรกติดลบ 4-5% ชี้ เงินบาท 32.50 บาท/ดอลล์ในปัจจุบัน เป็นอุปสรรควอนเร่งดูแล
รมว.พาณิชย์ เผยเตรียมปรับลดเป้าส่งออกทั้งปี 24 เม.ย.นี้ คาดโตไม่ต่ำกว่า 1% จากเดิมคาดโต 4% ส่วนไตรมาสแรกมองยังติดลบ ด้านเอกชน มองทั้งปีนี้โตแค่ 0% ไตรมาสแรกติดลบ 4-5% ชี้ ค่าเงินบาท 32.50 บาทต่อดอลลาร์ในปัจจุบันเป็นอุปสรรคต่อการส่งออก วอนเร่งดูแล พร้อมแนะสร้างความแข้มเข็งการค้าชายแดน ฟากสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ จี้ ช่วยแก้ปัญหาแนวโน้มค่าระวางเรือสูง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะปรับเป้าประมาณการส่งออกปี 2558 ลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4% โดยมองว่าการส่งออกในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตเป็นบวก ซึ่งมากกว่า 1% เล็กน้อย
สำหรับ สาเหตุที่ต้องมีการปรับลดเป้าหมายการส่งออก เนื่องจากตัวเลขการส่งออก 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- ก.พ.) การส่งออกไทยติดลบ 4% และมีโอกาสที่การส่งออกในเดือนมี.ค. ยังคงติดลบ ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกไตรมาสแรกมีโอกาสติดลบด้วย แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนตกใจ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ การส่งออกติดลบ 3.85% จีน ติดลบ 23.69% ญี่ปุ่น ติดลบ 18.80% สิงคโปร์ ติดลบ 21.51% เป็นต้น
ส่วนการประชุมเพื่อเร่งรัดการส่งออกร่วมภาคเอกชน ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ สภาหอการค้า สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ได้มีการหารือถึงสถานการณ์การส่งออกล่าสุด รวมถึงภาคเอกชนได้มีการนำเสนอแนวทางต่าง ๆตามความเหมาะสม โดยหลังการหารือยังได้มอบหมายให้นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค. อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เรียกกลุ่มอุตสาหกรรม 10 อุตสาหกรรม ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ เป็นต้น ประมาณ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางในการรักษาตลาด รวมไปถึงการขยายตลาด และการหาตลาดใหม่ให้แต่ละสินค้า โดยจะเรียกกลุ่มผู้ประกอบการ 10 กลุ่มดังกล่าวข้างต้นหารือในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.นี้ และจะต้องทราบผลการประชุมและแนวทางในการแก้ไขภายใน 1 เดือน
"การประชุมกับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อที่จะหาแนวทางว่าจะสามารถบุกตลาดได้อย่างไรบ้าง รวมไปถึงไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางการค้าในอาเซียนได้อย่างไร เป็นต้น"นายฉัตรชัย กล่าว
ด้านนายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังคาดจะสามารถฟื้นตัวได้ โดยคาดการณ์ว่าการส่งออกในไตรมาส 3 และ 4 จะเติบโตเฉลี่ยไตรมาสละ 3% และทั้งปีคาดว่าส่งออกจะเติบโตที่ 0% ขณะที่การส่งออกในช่วงไตรมาสแรกคาดว่าจะติดลบ 4-5% ส่วนไตรมาสสองการส่งออกน่าจะทรงตัว
ขณะที่นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ได้เสนอแนวทางให้กระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย 1. จัดทำงบประมาณเพื่อหนุนเอสเอ็มอี โปรแอ็กทีฟ ที่เคยได้มีการดำเนินการก่อนหน้านี้เพื่อสนับสนุนงบลงทุนให้เอสเอ็มอีออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น 2. โปรดักส์ ออฟ ไทย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาต่างชาติโดยเฉพาะอาเซียนให้ความสนใจกับการใช้สินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ไทย ซึ่งหากสามารถบูรณาการหรือสนับสนุนตราสินค้าไทย โดยการนำเสนอให้มีความชัดเจนและน่าเชื่อถือจะสามารถเป็นที่ยอมรับสำหรับผู้บริโภคต่างประเทศได้ 3. การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2558 โดยประเทศไทยถือว่ามีการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ โดยจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้า รวมไปถึงการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าระดับอาเซียนได้อย่างไร
4. การดูแลอัตราแลกเปลี่ยน โดยอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมไปถึงกระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ปัจจุบันค่าเงินบาทของไทยปรับตัวแข็งค่าขึ้นมากกว่า 1% ขณะที่คู่แข่ง เช่น มาเลเซียค่าเงินอ่อนค่า 10% สิงคโปร์ 5-6% เวียดนามอ่อนค่า 2% ซึ่งสาเหตุดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการส่งออกสินค้าของไทย รวมไปถึงการแข่งขันทางด้านราคา โดยปัจจุบันต้องยอมรับว่าค่าเงินบาทมีการปรับตัวแข็งค่าที่สุดในโลก โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก
ส่วนนายกลินท์ สารสิน กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ จัดตั้งคณะกรรมการดูแลด้านการส่งออก เนื่องจากถือเป็นเรื่องจำเป็น รวมไปถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการค้าชายแดน เนื่องจากปัจจุบันพบว่าการค้าชายแดนมียอดขายมากกว่า 20-30% ซึ่งจะทำอย่างไรให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ไทยศูนย์กลางการค้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการส่งออก
นอกจากนี้ นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสภาฯ มองภาพรวมการส่งออกไตรมาสแรกปี 2558 ของไทย คาดจะติดลบประมาณ 5% ซึ่งใกล้เคียงกับที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าการส่งออกจะติดลบประมาณ 4% ส่วนความช่วยเหลือที่สภาฯอยากให้กระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหามีอยู่ 2 เรื่องที่สำคัญ ซึ่งประกอบด้วย
1. การให้ความช่วยเหลือดูแลภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางเรือ ภาระท่าเรือ ค่าระวางเรือ และต้นทุนขนส่งต่างๆ ที่ไม่ได้มีการปรับลดลงตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ และ 2.ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลในเรื่องกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมีช่องทางในการแข่งขันได้มากขึ้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย