- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 02 April 2015 08:58
- Hits: 2047
โดนสารพัดปัจจัยลบถล่ม-วอนแบงก์ชาติดูแลค่าเงินเพื่อช่วยบรรเทา
แนวหน้า : โดนสารพัดปัจจัยลบถล่ม-วอนแบงก์ชาติดูแลค่าเงินเพื่อช่วยบรรเทา ลดเป้าส่งออกปี’58 เหลือ 0%
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ ลดเป้าส่งออกปี 2558เหลือดีที่สุดแค่ 0% ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่าติดลบ 2% หรืออาจลงไปติดลบได้ถึง 5% หลังเจอหลากปัจจัยลบรุมถล่ม เตรียมเข้าหารือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล9 เม.ย.นี้ หามาตรการช่วยด่วน
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกฯ คาดการณ์ว่าทั้งปี 2558 ส่งออกไทยจะอยู่ที่ 0% ซึ่งเป็นการปรับเป้าลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 1.5% เพราะส่งออกยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายเรื่อง ทั้งราคาน้ำมัน ตลาด อัตราแลกเปลี่ยน เศรษฐกิจโลก อีกทั้งต้องยอมรับว่าการส่งออกในเดือนก.พ. 2558 เป็นตัวเลขที่น่าผิดหวัง ทั้งๆ ที่ภาครัฐ และเอกชนต่างก็พยายามผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ มูลค่าอาจลดลงมาได้อีก ทำให้ไตรมาสแรกคาดว่าส่งออกจะติดลบ 2% หรืออาจต่ำกว่านั้นได้อีกซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ปัจจัยโดยรอบ
สำหรับ การส่งออกของไทยเดือนก.พ. 2558 มีมูลค่า 17,230 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง6.14% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้มูลค่าการส่งออกในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- ก.พ.2558) มีมูลค่า34,478 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลง 4.60% เนื่องจากหลายตลาดยังประสบปัญหาจากสภาพเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศยังคงซบเซา อีกทั้งผลของราคาน้ำมันยังกระทบโดยตรงต่อการส่งออกของไทย โดยการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง 7 เดือนติดต่อกัน ส่งผลต่อราคาส่งออกสินค้าน้ำมันสำเร็จรูป ทำให้การส่งออกปรับลดลง 26.8% และกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ปรับตัวลง 20.3% และ 12.3% ตามลำดับ และยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ทำให้การส่งออกปรับลดลง 38.8%
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งออกช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ น่าจะติดลบ 5 % ขณะที่ไตรมาสที่ 2 น่าจะทรงตัวที่ 0% ส่วนไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวที่ 3% และไตรมาสที่ 4 จะขยายตัว 2% ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปี 2558 การส่งออกไทยจะขยายตัวได้ดีที่สุดเพียง 0% อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งออกฯ ต้องการให้รัฐบาลเน้นเรื่องการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนให้มากที่สุด เพราะตลาดอื่นๆ ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด
“วันที่ 9 เม.ย. 2558 นี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯจะเข้าหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อขอให้กำกับดูแลนโยบายการเงิน และการคลังให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะตอนนี้ภาคเอกชนเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาท เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกไทย ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ควรออกมาตรการมาดูแลเรื่องของค่าเพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังสามารถใช้ยาแรงในเรื่องนี้ได้”
ด้านนางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนทรงตัว เนื่องจากครัวเรือน และธุรกิจยังคงระมัดระวังในการใช้จ่ายส่วนการใช้จ่ายภาครัฐยังใกล้เคียงกับเดือนก่อน ขณะที่การส่งออก มีมูลค่า 17,069 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาสินค้าส่งออกหลายหมวดที่หดตัวตามราคาน้ำมันดิบ ความต้องการที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียโดยเฉพาะจีน และกลุ่มอาเซียนรวมถึงกลุ่มสหภาพยุโรป การตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี (จีเอสพี) ในทุกสินค้า ที่ส่งออกไปยังอียู และการเหลื่อมเดือนของเทศกาลตรุษจีน ที่ตรงกับเดือนนี้ ทำให้มีวันหยุดยาวในประเทศแถบเอเชียหลายตลาด
“แม้ว่า ภาพรวมการส่งออกจะติดลบ 2 เดือน แต่ธปท.ยังคงมองว่าภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ที่ 0.8% ขณะที่เงินเฟ้อนั้นมองว่าแม้จะยังติดลบ และประชาชนยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่ไม่ได้ถือว่าน่ากลัวจนนำไปสู่ภาวะเงินฝืด”