- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 26 March 2015 23:33
- Hits: 1716
‘อิสระ’นั่งประธานหอการค้าอีกสมัย โชว์นโยบาย 3 เสาหลัก
แนวหน้า : ‘อิสระ’นั่งประธานหอการค้าอีกสมัย โชว์นโยบาย 3 เสาหลัก แนะธปท.กดบาทอ่อน
'อิสระ ว่องกุศลกิจ'โชว์วิชั่น แนะผู้ประกอบการพัฒนาตัวเองรับมือภาวะเศรษฐกิจโลกพยายามหาตลาดส่งออกใหม่ สร้างตลาดภายในให้เติบโต “สมเกียรติ อนุราษฎร์” เรียกร้อง “แบงก์ชาติ” ช่วยอีกแรง
ที่ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2558 หอการค้าไทย ได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิกหอการค้าไทย ประจำปี 2558-2559 ครั้งที่ 49 เพื่อสรรหา คณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง
โดยที่ประชุม ได้มีมติให้นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าไทยอีก 1 วาระ โดยมีวาระ 2 ปี ขณะที่นายกลินท์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่ง รองประธานหอการค้าไทย และให้ นายเดชเฉิด สุวรรณรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกรุงเทพธุรภัณฑ์ ออโตเมชั่น จำกัด ดำรงตำแหน่งเลขาธิการหอการค้าไทย แทนนายกลินท์ สารสิน ที่เลื่อนขึ้นเป็นรองประธานหอการค้าไทย
นายอิสระ กล่าวว่า แนวทางของ หอการค้าไทย จะเน้นบริหารงาน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.เน้นเพิ่มขีดความสามารถให้กับเอกชน
ผู้ประกอบการไทย, 2.เชื่อมโยงสมาชิกในภูมิภาคทั่วประเทศเข้าด้วยกัน ทั้งในส่วนโครงข่ายและข้อมูลข่าวสารให้ครอบคลุม หรือเชื่อมโยงเครือข่ายการค้า หน่วยงานราชการ และประเทศการค้า ให้การค้าสามารถเดินหน้าได้ และ3. มีการจัดทำหลักธรรมาภิบาลที่ดี ลดความเลื่อมล้ำในสังคม เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างบูรณาการ อีกทั้งต้องเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย โดยเดินหน้าตามมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน Thai Gap จะเพิ่มบทบาทให้ผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ส่วนภาคการท่องเที่ยว คาดการจะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว 1.4ล้านล้านบาท
สำหรับ เรื่องการส่งออกที่ตัวเลขส่งออกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร เป็นผลมาจากค่าเงินหลายประเทศคู่ค่าอ่อนค่าลงมาก ทำให้การขายสินค้าทำได้ยากขึ้น เพราะราคาสินค้าที่ส่งออกมีมูลค่าลดลง รวมถึงการที่ยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางด้านภาษี(จีเอสพี) ซึ่งส่งผลกระทบกับภาคการส่งออกของไทย ดังนั้นผู้ประกอบการเองควรพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น เจาะตลาดที่ยังมีโอกาสส่งออก ซึ่งผู้ประกอบการควรพยายามหาตลาดอื่นๆ ออกไปหาลูกค้าด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องทำ คือ สร้างตลาดภายในให้เติบโต ให้แต่ละจังหวัด มีสินค้าของตัวเอง เป็นอีกวิธีทางที่ได้เสนอให้ทางรัฐบาลรับไปพิจารณาแล้ว
“ผู้ประกอบการจะต้องออกไปหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ ในกลุ่มอาเซียน และจีนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก และสร้างตลาดภายในประเทศโดยการเปิดตลาดชุมชนเพื่อจำหน่ายสินค้าภายในชุมชน”
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่เพื่อให้มีศักยภาพที่สูง เพื่อเป็นอนาคตของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทายาทนักธุรกิจ โดยปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มนี้ประมาณ 3,300 คน
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ติดลบ 6.14% รู้สึกตกใจ เนื่องจากคาดหวังว่าตลาดสหรัฐจะดีขึ้นช่วยพยุงให้ตัวเลขการส่งออกดี แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งสหรัฐและจีน ตัวเลขการส่งออกลดลงทั้งหมด ดังนั้นผู้ประกอบต้องเร่งมือหาทางออกให้กับธุรกิจมากขึ้น รวมทั้งต้องพยายามจัดกลุ่มสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดต่างๆ เนื่องจากตอนนี้มีปัจจัยจากเศรษฐกิจของยุโรปและกรีซ รวมถึงค่าเงินของไทยที่แข็งค่า จึงเรียกร้องให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออก