- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 16 March 2015 22:52
- Hits: 1680
กรมการค้าต่างประเทศ เผยกำลังรวบรวมข้อมูลการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีน
สืบเนื่องจากกรณีที่สมาคมโลหะไทยร่วมกับชมรมเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ ได้เรียกร้องให้กรมการค้าต่างประเทศยุติการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ เหล็กลวดคาร์บอนต่ำที่เจือธาตุอื่น เหล็กลวดคาร์บอนต่ำสำหรับงานย้ำหัวและงานทุบขึ้นรูปเย็น และเหล็กลวดคาร์บอนต่ำสำหรับงานย้ำหัวและงานทุบขึ้นรูปเย็นที่เจือธาตุอื่นที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากเห็นว่าหากมีการใช้มาตรการ ตอบโต้การทุ่มตลาดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าและผู้ใช้เพื่อผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพราะปริมาณการผลิตภายในประเทศไม่เพียงพอและคุณภาพต่ำกว่าสินค้าจากจีน อีกทั้งจะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นนั้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้ชี้แจงให้ทราบถึงข้อเท็จจริงกับกระบวนการทางกฎหมายในเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558 ให้เปิดการไต่สวนการทุ่มตลาดกรณีดังกล่าวตามคำขอของอุตสาหกรรมภายในประเทศคือ บมจ.เอ็น.ที.เอส.สตีลกรุ๊ป และบริษัท เหล็กสยาม (2001) จำกัด ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 ขณะนี้กระบวนการ ไต่สวนอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลโดยการจัดส่งแบบสอบถามถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมทั้งการจัดประชุมเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งจากผู้มีส่วนได้เสียเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 โดยสมาคมโลหะไทยร่วมกับชมรมเหล็กลวดคาร์บอนต่ำได้เข้าร่วมกระบวนการดังกล่าวด้วยแล้ว
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะได้รวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม ข้อคิดเห็นและข้อโต้แย้งพร้อมหลักฐาน เพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุนพิจารณาวินิจฉัยอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด จะต้องประกาศผลการไต่สวนว่าจะใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดในสินค้าดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร ภายในเดือนกรกฎาคม 2559 กรมการค้าต่างประเทศมิได้มีอำนาจที่จะสั่งยุติการไต่สวนได้ ซึ่งผลการไต่สวนจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะได้รับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมกระบวนการและสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อกรมการค้าต่างประเทศจะได้ประมวลข้อเท็จจริงนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย