WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

คาดส่งออกไตรมาสแรกติดลบ 2% ชี้สินค้าหลักราคาร่วง

      แนวหน้า : คาดส่งออกไตรมาสแรกติดลบ 2% ชี้สินค้าหลักราคาร่วง ซ้ำเจอปัจจัยลบเพิ่มขึ้น

      นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออกฯ) เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด 12 กระทรวง และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานผลักดันแก้ไขปัญหาการส่งออกอย่างจริงจัง ให้ได้ภายในเดือน มี.ค.2558 นี้ รวมถึงให้มีการประชุมต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง

       ส่วนการที่กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการเรียกประชุมทูตพาณิชย์ ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ประเมินสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออก และมองว่าในการประชุมทูตพาณิชย์มีแนวโน้มที่กระทรวงพาณิชย์ จะไม่ปรับเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ 4% เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นเป้าการทำงาน อีกทั้งเป้าการปรับเป้าส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อาจต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง หรือช่วงไตรมาสแรกของปีก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ เพื่อจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางเอกชนเองก็หวังให้ภาครัฐผลักดันเป้าส่งออกให้ได้ตามเป้า 4 % ที่ตั้งไว้

      อย่างไรก็ตาม ทางสภาผู้ส่งออกฯ ได้ประเมินเบื้องต้นไปแล้วว่าการส่งออกไตรมาสแรกของไทยจะติดลบที่ 2% และทั้งปีจะเติบโตได้ที่ 1 -1.5% เนื่องจากขณะนี้การส่งออก มีปัจจัยบวกน้อยมาก และยังเจอกับปัจจัยลบมากขึ้น เช่น ราคาสินค้าเกษตรและราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกชัดเจน เนื่องจากสินค้าที่ไทยส่งออกที่เป็นน้ำมันสำเร็จรูป และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว มีมูลค่าส่งออก คิดเป็นสัดส่วนถึง 20-22 % ซึ่ง เมื่อราคาลดลงไป 40 -50 % ก็จะส่งผลกระทบทำให้รายได้ส่งออกหายไปจำนวนมากด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความหวังว่าจะเริ่มเห็นปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส2 -4 และจะทำให้การส่งออกของไทยดีขึ้น

     ตลาดส่งออกตอนนี้ยังติดลบหลายตลาด เช่น อียู ยังติดลบ เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น รวมทั้ง ญี่ปุ่น จีน อาเซียน เดิม 5 ประเทศ ก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตลาดที่เป็นบวกมีแค่ CLMV และสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

     นอกจากนี้ ในการประการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาททำให้อ่อนค่าลง เหลือ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลดีต่อส่งออก แต่เอกชนไม่แน่ใจว่าจะอ่อนได้นานแค่ไหน อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่มั่นใจได้ว่าทางรัฐบาลได้เข้ามาดูแล ให้ความสำคัญกับการส่งออก ส่วนค่าเงินที่ผู้ส่งออกเห็นว่าเหมาะสมที่สุดและไม่เป็นภาระหนักเกินไปสำหรับการนำเข้าสินค้า น่าจะอยู่ที่ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

     รัฐควรเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน เรื่องการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการส่งออกโดยลดขั้นตอน ให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก เช่น พิธีการศุลกากร การขออนุญาตการส่งออก และล่าสุด ทางภาคเอกชน เตรียมเสนอแผนงานยุทธศาสตร์การขนส่งทางน้ำ การพัฒนาชายฝั่ง ทะเลน้ำลึกให้รัฐบาลพิจารณาด้วย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!