- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 06 March 2015 22:30
- Hits: 1745
พาณิชย์ชง นบข.อนุมัติขายข้าวสต๊อกรัฐ 7.8 แสนตันให้เอกชน 40 ราย สัปดาห์หน้า
กระทรวงพาณิชย์ เผยเอกชนสนใจยื่นซองเสนอซื้อข้าวในสตีอกรัฐแบบยกคลังรอบสอง 40 ราย ปริมาณ 7.8 แสนตัน จากจำนวนที่เปิดประมูลขายราว 1 ล้านตัน เตรียมสรุปเรื่องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า คาดอนุมัติขายทั้งหมด ซึ่งจะได้เงินเข้ารัฐมากกว่า 8,000 ล้านบาท
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมฯได้เปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประมูลซื้อข้าวในสต๊อกจากรัฐบาล ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวรัฐแบบยกคลัง รอบ 2/58 ปริมาณ 1 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวขาว 5% ,10% 15% และ 25% ข้าวเหนียว และปลายข้าว ในคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งมีผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมประมูล 45 ราย แต่เข้าร่วมยื่นซองเสนอราคาทั้งหมด 40 ราย โดยใน 40 รายได้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวรวมทั้งหมดปริมาณ 780,000 ตันใน 89 คลัง จากที่เปิดขายทั้งหมด 124 คลัง หรือคิดเป็น 71.77% ของปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูล ส่วนอีก 35 คลัง ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคา คิดเป็นปริมาณ 220,000 ตัน
"คาดว่า จะสามารถสรุปผลการเสนอซื้อข้าวสารครั้งนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) อนุมัติได้ภายในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะสามารถขายได้เกือบหมดตามที่มีผู้ยื่นซองเสนอซื้อ ซึ่งมีผู้เสนอซื้อในราคาต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดเพียง 2 คลัง หรือเป็นไปตามเกณฑ์ 87 คลัง คาดว่าจะมีมูลค่าการขายครั้งนี้มากกว่า 8,000 ล้านบาท เพราะผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดเสนอซื้อในราคาสูงกว่าราคาขั้นต่ำที่ประกาศไว้" น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การประมูลครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนผู้ที่เข้าร่วมประมูลไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะขายข้าวได้ปริมาณน้อย เพราะการประมูลรอบ 2 มีผู้ยื่นเสนอซื้อ 40 ราย แต่ปริมาณที่เสนอซื้อข้าวมากถึง 780,000 ตัน ซึ่งมากกว่าการอนุมัติขายในรอบแรก 500,000 ตัน และมีผู้ยื่นซองเสนอราคาเกือบ 100 ราย เชื่อว่าการประมูลข้าวใน 2 รอบที่ผ่านมาจะไม่กระทบกับราคาผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังปี 58 ที่กำลังทยอยออกมา เพราะข้าวใหม่มีตลาดต่างประเทศรองรับอยู่แล้ว และกรมฯกำลังเร่งหาตลาดเพิ่มเติมทั้งในแอฟริกา อาเซียน และจีน
อินโฟเควสท์
เอกชน 45 รายยื่นซองคุณสมบัติประมูลข้าวรัฐ รอบ 2 ประกาศรายชื่อ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์(พณ.) แจ้งว่า หลังกรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้เอกชนที่สนใจประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน ยื่นซองคุณสมบัติตั้งแต่เวลา 08.30-11.30 น. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วปรากฎว่ามีเอกชนทั้งโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าวในประเทศ มายื่นซองคุณสมบัติทั้งสิ้น 45 ราย จากผู้ที่มารับบัตรคิวทั้งสิ้น 47 ราย
หลังจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมการค้าภายใน จะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นซองทั้งหมด หากไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด หรือกระทำการเป็นตัวแทนอำพราง(นอมินี) ให้กับบริษัทที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเวลา 09.00 น.วันที่ 6 มี.ค.58 จากนั้นเวลา 09.00-10.30 น.จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าว และจะเปิดซองเสนอราคาตั้งแต่เวลา 10.30 น.เป็นต้นไป โดยผู้ที่ยื่นเสนอราคาผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำที่กำหนดจะอนุมัติขายให้
สำหรับ ข้าวที่เปิดประมูลในครั้งนี้มีปริมาณรวมกว่า 1 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5%, 10%, 15%, 25%, ข้าวเหนียว และปลายข้าว ในคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นการระบายแบบรายคลังตามสภาพข้าวที่เก็บรักษา และเป็นการระบายเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม การประมูลข้าวครั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้กำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลข้าวให้มีความรัดกุมและเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่เคยมีปัญหากระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าข้าวเข้ามาประมูลได้ เช่น กำหนดคุณสมบัติต้องเป็นผู้ค้าข้าวเท่านั้น ไม่เคยมีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อโครงการแทรกแซงสินค้าเกษตร ต้องไม่มีประวัติการชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. หรือมีความเกี่ยวพันกับบริษัทที่กระทำความผิด
โดยการประมูลข้าวครั้งนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลน้อยกว่าครั้งที่ 1/58 ที่เปิดประมูลไปเมื่อวันที่ 29 ม.ค.58 ปริมาณ 999,000 ตัน โดยครั้งนั้นมีผู้สนใจเข้ายื่นประมูลรวม 100 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติ 96 ราย แต่ในครั้งนี้มีผู้เข้ายื่นซองคุณสมบัติรวม 45 ราย และยังไม่ทราบผลว่าจะมีผู้ผ่านคุณสมบัติก่อนที่จะยื่นซองเสนอราคากี่ราย
ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่มีผู้เข้าร่วมยื่นซองคุณสมบัติเพื่อประมูลข้าวยกคลังรอบ 2 ประมาณ 45 รายนั้น ชี้ให้เห็นว่ามาตรการป้องกันไม่ให้มีนอมินีของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกรณีทุจริตเข้ามาร่วมเสนอซื้อข้าวจากภาครัฐได้ผล ซึ่งมั่นใจว่าการประมูลครั้งนี้ จะได้ราคาดีและน่าจะระบายข้าวได้ในปริมาณที่น่าพอใจ
อินโฟเควสท์
พาณิชย์ ยื้อขายข้าวเสื่อม 4 ล้านตัน ชี้ต้องดำเนินคดีกับคนผิดก่อน
แนวหน้า : พาณิชย์ ยื้อขายข้าวเสื่อม 4 ล้านตัน ชี้ต้องดำเนินคดีกับคนผิดก่อน เชื่อระบายได้หลังเดือนส.ค.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่มีแผนระบายข้าวเสื่อมสภาพจำนวนกว่า 4 ล้านตัน โดยข้าวเสื่อมคุณภาพขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบ การนำออกมาระบายต้องรอให้ผ่านขั้นตอนการดำเนินการทางคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเบื้องต้น คาดว่าจะสามารถนำออกระบายสู่ภาคอุตสาหกรรมได้ หลังเดือนส.ค. 2558 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีผู้สนใจทั้งในประเทศ และต่างประเทศขอซื้อข้าวเสื่อมสภาพไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมาก จนปัจจุบันก็ยังมีการติดต่อขอซื้ออยู่ตลอดเวลา
“ด้วยเหตุผลของขั้นตอนทางกฎหมายดังกล่าว จึงยังไม่มีการระบายข้าวเสื่อมคุณภาพในช่วงนี้แน่นอน และเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทางกฎหมายเมื่อใด กรมการค้าต่างประเทศจะขอความเห็นชอบจาก นบข. เปิดประมูลอย่างโปร่งใส ให้ผู้สนใจเข้ามาแข่งขันเสนอซื้อได้ตามกลไกตลาด ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อวงการค้าข้าวและอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ต้องการใช้ข้าวเสื่อมเป็นวัตถุดิบ จึงขอให้ตลาดได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจดำเนินธุรกิจด้วยความเหมาะสมต่อไป” นางดวงพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ขณะที่นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นางดวงพร และนางสาวจีระวัฒน์ วัฒนฐานะ รองผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่ให้ดำเนินคดีกับคู่สัญญาในโครงการรับจำนำข้าว กรณีข้าวที่ตรวจสอบแล้วคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
พร้อมกันนี้ นางดวงพรกล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวผ่านสื่อขณะนี้ ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนระบายข้าวเสื่อมสภาพจำนวนกว่า 4 ล้านตันไปสู่อุตสาหกรรมในราคาต่ำ ซึ่งได้สร้างความกังวลและสับสนกับวงการค้าข้าวนั้น ไม่เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศกำลังจัดทำแผนการระบายข้าวเสื่อมสภาพปริมาณรวม 4 ล้านตัน ซึ่งข้าวที่เก่าที่สุดมาจากโครงการรับจำนำปี 2549 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยสภาพข้าวมีทั้งที่เป็นฝุ่น ไม่มีเชื้อแป้งที่จะนำไปใช้ต่อในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตเอทานอล