WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

จี้ 'คสช.'ทวงคืนแชมป์ส่งออกข้าวเอกชนแนะงัดโปรโมชั่นลด-แลกชิงส่วนแบ่งตลาด

     แนวหน้า : นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกข้าวต้องการเสนอให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาจัดสรรงบประมาณ 20-30 ล้านบาท ในการจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศ อาทิ การลด แลก แจก แถม ให้แก่ผู้นำเข้าข้าวหอมไทยในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะตลาด จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซียน และสหรัฐฯ เป็นต้น เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดของไทยคืนจากเพื่อนบ้าน เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ข้าวหอมจากเวียดนามและกัมพูชาได้เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดไทยไปจำนวนมากหลังจากที่ไทยมีโครงการรับจำนำข้าว

     “ในช่วงที่ผ่านมาไทยปล่อยให้ข้าวหอมจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแย่งตลาด เพราะข้าวของไทยมีราคาสูงเกินไปประมาณ 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมจากเพื่อนบ้านอยู่ที่ 600-700 เหรียญสหรัฐ ทำให้ลูกค้าในต่างประเทศจำเป็นต้องหันไปรับประทานข้าวหอมเพื่อนบ้านทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบ แต่เมื่อนานๆทำให้หลายคนติดใจข้าวหอมจากเพื่อนบ้านทันที แต่ก็ยังเชื่อว่าในอนาคตราคาข้าวหอมไทยอาจปรับลดลงมา เพื่อให้ใกล้เคียงกับเพื่อนบ้าน โดยข้าวหอมไทยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 950 เหรียญสหรัฐต่อตัน อาจลดลงมาในระดับ 850 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 520-550 เหรียญสหรัฐ และ ของกัมพูชาอยู่ที่ 700 เหรียญสหรัฐ

    นอกจากนี้ยังต้องการให้ ภาครัฐมีแนวทางในการส่งเสริมการลดต้นทุนของชาวนาในการปลูกข้าว โดยในระยะสั้นภาครัฐจำเป็นต้องหามาตรการในอุดหนุนเรื่องของราคาปุ๋ยและยาฆ่าหญ้า ส่วนระยะกลางและระยะยาวก็ควรหามาตรการจูงใจให้ชาวนามีการรวมแปลงที่นาจากปัจจุบันมีที่ดิน 10-20 ไร่ก็ให้รวมกันเป็น 100-200 ไร่ เหมือนกับประเทศเวียดนามซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดค่าบริหารจัดการต่างๆ ได้ เพราะที่ผ่านมาต้นทุนการผลิตชาวนาไทยจะสูงกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม ดังนั้นไทยจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องของต้นทุน การพัฒนาวิจัยพันธุ์ข้าวและการศึกษาความต้องการข้าวของแต่ละตลาดในอนาคต หากสามารถดำเนินการได้พร้อมๆกันเชื่อว่าข้าวไทยสามารถหนีคู่แข่งได้โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างมูลค่าเพิ่ม

    นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากต้นทุนการผลิตข้าวที่สูงมาก โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนค่าปุ๋ย ค่าดำเนินการ และ ค่าเช่าพื้นที่ จึงต้องการให้ คสช. ออกมาตรการในการควบคุมอัตราการค่าเช่านาตามพื้นที่ต่างๆให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือไม่ให้นายทุนเอารัดเอาเปรียบชาวนามากนัก เพราะที่ผ่านมาค่าเช่านาปรับเพิ่มแบบก้าวกระโดดจากปีละ 500 -1,000 บาทต่อไร่ต่อปี มาเป็น 1,000-2,000 บาทต่อไร่ต่อการทำนา 1 รอบ ซึ่งเบื้องต้นชาวนาพอใจค่าเช่าไม่เกิน 1,000 บาทต่อไร่ต่อ 1 รอบ

   “ค่าเช่าพื้นที่คิดเป็นปีแต่จะมาปรับขึ้นในช่วงโครงการรับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน ทำให้เจ้าของที่ดินฉวยโอกาสในการเพิ่มค่าเช่าตามไปด้วย ซึ่งตอนนี้ที่เจอเยอะๆ ก็จะมี 1,000, 1,500 และ 2,000 บาทต่อไร่ต่อการทำนา 1 รอบ ซึ่งหากเช่าที่ 20 ไร่ก็ต้องเสียค่าเช่า 40,000 บาท แม้ปัจจุบันเจ้าของที่เริ่มมีการปรับลดค่าเช่าลงมาในระดับหนึ่งหลังจากไม่มีโครงการรับจำนำข้าวแต่ก็ยังเป็นอัตราที่สูงสำหรับชาวนา เพราะชาวนาก็ต้องเช่า หากไม่เช่าก็จะมีชาวนารายอื่นๆ มาเช่าแทนนายวิเชียร กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!