- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 03 March 2015 00:41
- Hits: 1803
พาณิชย์ เผย CPI เดือน ก.พ. -0.52% ลดเป้าเงินเฟ้อทั้งปีเหลือ 0.6-1.3%
กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(CPI)เดือนก.พ.58 ดัชนีอยู่ที่ 106.15 ลดลง 0.52% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.57 (YoY) จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 0.41% (YoY)
ขณะที่ CPI เฉลี่ย 2 เดือนแรกของปี 58 (ม.ค. -ก.พ.) ลดลง 0.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก CPI เดือน ก.พ.58 สูงขึ้น 0.12% จากม.ค.58 ตามกราคาพลังงาน ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91 95 E20 น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน 95 ก๊าซธรรมชาติ NGV และค่าโดยสารสาธารณะ รวมทั้งราคาอาหารสด ผลไม้สด ปลาและสัตว์น้ำ เป็ด และไก่ สำเร็จรูป เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ สินค้าประเภทเครื่องปรุงอาหาร เช่น น้ำมันพืช และเครื่องปรุงรส ก็มีราคาสูงขึ้นด้วย
ดัชนี ราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือน ก.พ.58 อยู่ที่ 112.96 ลดลง 0.06% จาก ม.ค.58 ตามการลดลงของราคาอาหารสด ที่สำคัญ ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด และไข่ไก่ เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต ส่งผลให้ปริมาณออกสู่ตลาดมาก ส่วนการบริโภคในภาพรวมหลังเทศกาลตรุษจีนปรับลดลงเล็กน้อย ประกอบกับราคาผักสด ได้แก่ แตงกวา ผักกาดขาว ผักคะน้า ต้นหอม ผักกาดหอม ผักชี มะเขือเจ้าพระยา และหน่อไม้ฝรั่ง ปรับตัวลดลง รวมทั้งราคา ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ปรับตัวลดลงเช่นกัน ขณะที่ผักสดและผลไม้บางชนิด เช่น กะหล่ำปลี มะนาว มะระจีน ส้มเขียวหวาน มะม่วง แตงโม องุ่น และอาหารสำเร็จรูป ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว อาหารโทรสั่ง(delivery) และข้าวราดแกง ราคาปรับสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.57 เพิ่มขึ้น 1.72%
ขณะที่ ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 102.44 เพิ่มขึ้น 0.23% จากเดือน ม.ค.58 จากการทยอยปรับขี้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91 95 E20 น้ำมันดีเซล และเบนซิน 95 รวมทั้งก๊าซธรรมชาติ(NGV) นอกจากนี้ ค่าโดยสารรถประจำทาง 1 ค่าโดยสารรถแท็กซี่ รถยนต์ ค่าเช่าบ้าน ปรับราคาสูงขึ้น ขณะที่ ค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 และ 2 สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาดและของใช้ส่วนบุคคล เช่น สบู่ถูตัว ยาสีฟัน น้ำมันใส่ผม และน้ำหอม มีราคาลดลง แต่ลดลง 1.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของปี 58 ลดลงมาอยู่ที่ 0.6-1.3% จากเดิมที่ 1.8-2.5% หลังจากปรับสมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ปีนี้อยู่ที่ 3-4%, ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก 50-60 ดอลลาร์/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32-34 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจากปีก่อนถึง 50% และเชื่อว่าจะไม่กลับไปเพิ่มขึ้นมากเท่าในช่วงที่ผ่านมา
อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่าจะติดลบ 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 57 จากเหตุผลสำคัญในเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับมีการปรับลดค่า Ft ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.58 นอกจากนี้ภาครัฐยังมีมาตรการช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และปัจจัยสุดท้าย คือ สินค้าเกษตรมีราคาลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การที่อัตราเงินเฟ้อของไทยในไตรมาสแรกยังคงติดลบ และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 58 ที่ปรับใหม่อยู่ในระดับต่ำนั้น มองว่าประเทศไทยอยู่ในภาวะเงินเฟ้อระดับอ่อนๆ และยังไม่ถึงกับเกิดภาวะเงินฝืด โดยเชื่อว่าในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป อัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปกติแล้วในช่วงไตรมาสสุดท้ายราคาน้ำมันจะสูงขึ้นตามความต้องการใช้เชื้อเพลิงในช่วงฤดูหนาวของประเทศตะวันตก
“เงินเฟ้อในตอนนี้ ถ้ามองย้อนไป 5 ปีก็ยังไม่ต่ำขนาดนี้...ตอนนี้ประเทศอยู่ในภาวะเงินเฟ้ออ่อนๆ ยังไม่ลงไปที่เงินฝืดได้ง่ายๆ แต่คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 2 ไป ดัชนีจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น" ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ส่วนโอกาสที่ไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดหรือไม่นั้น คงต้องติดตามสถานการณ์ว่าหลังจากที่ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มจะทรงตัวแล้วอัตราเงินเฟ้อจะเป็นเช่นไร เพราะที่ผ่านมาเงินเฟ้อที่ปรับลดลงมีสาเหตุมากจากต้นทุนสินค้าที่ลดลงตามระดับราคาน้ำมัน ประกอบกับ ในแง่ของกำลังซื้อนั้นประชาชนมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นด้วย
อินโฟเควสท์