WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ส.ส่งออกข้าวไทย คาดประมูลข้าวในสต็อกรัฐล็อต 2 ไม่คึกคักเหตุตลาดชะลอ การแข่งขันราคาสูง

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลครั้งที่ 2 จะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนลดลง เพราะขณะนี้ความต้องการตลาดชะลอตัวจากปริมาณผลผลิตที่มีมาก และการแข่งขันด้านราคา ทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อ เพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าว ประกอบกับรัฐบาลเปิดประมูลอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก ทำให้ผู้ประกอบการไม่เร่งรีบซื้อ คาดว่าการประมูลครั้งใหม่นี้ รัฐบาลน่าจะขายได้ประมาณ 400,000 ตัน จากที่เปิดประมูล 1 ล้านตัน

   นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวกับเอกชนที่ร่วมรับฟังการชี้แจงเงื่อนไขการประมูลว่า ได้ปรับปรุงขั้นตอนการประมูลให้มีความสะดวกและเรียบร้อยมากขึ้น โดยกำหนดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 5 มี.ค. 58 เพื่อตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ โดยมีกรมการค้าภายในและกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติด้วย จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในวันที่ 6 มี.ค.58 พร้อมให้ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนยื่นซองเสนอราคา ตั้งแต่เวลา 09.00-10.30 น. และจะเปิดซองเสนอราคาหลังเวลา 10.30 น.เป็นต้นไป จากเดิมที่ดำเนินการภายในวันเดียว ซึ่งไม่สะดวกที่จะรองรับผู้เข้าร่วมการประมูลจำนวนมาก

    "ยังคงยึดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เดิม โดยเฉพาะการประกาศมูลค่าขั้นต่ำ(ฟลอร์ แวลู) ก่อน ผู้เสนอซื้อมูลค่าสูงสุดในแต่ละคลังที่ผ่านเกณฑ์แล้ว กรมฯ จะรวบรวมเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาก่อนยืนยันการซื้อขาย คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลจำนวนมากเช่นที่ผ่านมา" นางดวงพร กล่าว

   ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมเสนอราคา เพื่อป้องกันปัญหาตัวแทน(นอมินี) ให้กับบริษัทที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีขายข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าบริษัทใดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงไปยังบริษัทที่ถูกชี้มูลความผิด บริษัทนั้นจะถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมประมูลทันที

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

พณ.เปิดระบายข้าวล๊อต 2 อีกล้านตัน จ่อปรับขั้นตอนประมูลเข้มงวดขึ้น

  แนวหน้า : นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ในการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลครั้งที่ 2/2558 นี้ ได้มีการปรับปรุงขั้นตอนการประมูลให้มีความสะดวกและเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น โดยได้กำหนดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ ในวันที่ 5 มีนาคม 2558 เพื่อตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ โดยเพิ่มให้กรมการค้าภายใน และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ หลังจากการประมูลครั้งที่ผ่านมา ตรวจพบบางบริษัทเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการระบายข้าว หลังจากนั้นจะติดประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในวันที่ 6 มีนาคม 2558 พร้อมเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา เวลา 9.00-10.30 น. และจะเปิดซองเสนอซื้อตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป แทนการดำเนินการทุกขั้นตอนในวันเดียว เพราะเห็นว่าไม่สะดวกสำหรับการรองรับผู้เข้าร่วมการประมูลจำนวนมาก

   ทั้งนี้ ในส่วนของเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การประมูลจะยังยึดใช้แบบเดิม โดยจะมีการประกาศราคาขั้นต่ำ ให้ผู้สนใจใช้ประกอบเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ พิจารณามูลค่าตั้งต้นในการยื่นราคาแข่งขัน โดยเมื่อได้รายชื่อผู้เสนอซื้อมูลค่าสูงสุดในแต่ละคลังที่ผ่านเกณฑ์ กรมกรมการค้าต่างประเทศ จะรวบรวมเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการประมูลก่อนยืนยันการซื้อขายต่อไป และคาดว่าในการประมูลครั้งนี้จะได้รับความสนใจ และมีผู้เข้าร่วมการประมูลจำนวนมาก

  สำหรับ การเปิดประมูลในครั้งนี้ จะเปิดให้ผู้สนใจยื่นประมูลแบบยกคลัง ในปริมาณรวม 1,008,837 ตัน แบ่งเป็นข้าวขาว 5% ประมาณ 762,700 ตัน คิดเป็น 75% ของข้าวที่นำมาเปิดประมูลทั้งหมด เนื่องจากข้าวขาวเป็นข้าวที่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีความต้องการซื้อสูง และส่วนที่เหลือจะเป็น ข้าวขาว 10%  ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% ข้าวเหนียวขาว 10% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ จาก 124 คลัง ใน 33 จังหวัด

   โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า การเปิดประมูลข้าวสารของรัฐบาลล็อตที่ 2 นี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนลดลง เนื่องจากตอนนี้ความต้องการข้าวในตลาดชะลอตัวลง เพราะผลผลิตมีมาก ประกอบกับมีการแข่งขันด้านราคา โยขณะที่ราคาข้าวของประเทศเวียดนามปรับตัวลดลง ข้าวขาว 5 % อยู่ที่ตันละ 350 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 470 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ข้าวขาว 5 % ของไทยอยู่ที่ตันละ 400- 405 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทั้งนี้ยังคาดถึงปริมาณการค้าข้าวโลกในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 41 ล้านตัน จากเดิมที่คาดไว้ 42 ล้านตันด้วย

   "ราคาข้าวไทยกับเวียดนามต่างกันเฉลี่ยประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การส่งออกยากขึ้น เนื่องจากประเทศผู้ซื้อชะลอการซื้อ เพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าว และการที่รัฐบาลเปิดประมูลอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก จะทำให้ผู้ประกอบการไม่เร่งรีบซื้อข้าว และการประมูลข้าวรอบนี้น่าจะชายได้ประมาณ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!