- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 16 February 2015 23:47
- Hits: 2142
พาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนมกราคม 58 มีจำนวน 5.98 พันราย โต 80% จาก ธ.ค. 57
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนมกราคม 2558 โดยมีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,980 ราย เพิ่มขึ้น 2,659 ราย คิดเป็น 80% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 3,321 ราย และเพิ่มขึ้น 663 ราย คิดเป็น 12% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,317 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวน 1,380 ราย
มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 18,620 ล้านบาท ลดลงจำนวน 12,767 ล้านบาท คิดเป็น 41% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 31,387 ล้านบาท และลดลงจำนวน 11,020 ล้านบาท คิดเป็น 37% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 29,640 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 640 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 365 ราย ธุรกิจทำบัญชีและตรวจสอบบัญชี จำนวน 194 ราย ธุรกิจขายส่งเครื่องจักร จำนวน 157 ราย และธุรกิจติดตั้งไฟฟ้า 122 ราย
ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มกราคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 598,462 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15.55 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 417,596 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,077 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,789 ราย
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า การจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2558 จะมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากการจดทะเบียนจัดตั้งในเดือนมกราคม 2558 มีจำนวนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (ธ.ค.57) คิดเป็น 80 % และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.57) คิดเป็น 12% ประกอบกับธุรกิจน่าจะได้รับผลดีจากแนวโน้มการเติบโตของ GDP ปี 2558 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 - 5 จากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมทั้งมาตรการของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายและการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจดทะเบียนจัดตั้งโดยรวม
สำหรับ เรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัดตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนมกราคม 2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 782 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 5,980 ราย หรือ คิดเป็น 13% โดยแบ่งออกเป็น
- ส่วนกลาง 609 ราย คิดเป็น 10% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) จำนวน 146 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 5 (บางนา) จำนวน 105 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 6 (ศูนย์ราชการ) จำนวน 103 ราย
- ส่วนภูมิภาค 173 ราย คิดเป็น 3%โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุดคือ สพค.จังหวัดสมุทรสาคร และ สพค.ปทุมธานี จำนวน 16 ราย รองลงมา สพค.จังหวัดระยอง จำนวน 15 ราย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 รวมทั้งสิ้น 295,941 ครั้ง โดยในเดือนมกราคม 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 18,320 ครั้ง คิดเป็น 7%
อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 11,383 ราย 13,018 เว็บไซด์ ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,087 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 8,296 ราย คิดเป็น 73% โดยธุรกิจที่ขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สูงสุด ได้แก่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,404 เว็บไซด์ คิดเป็น 19% ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,061 เว็บไซด์ คิดเป็น 16% และธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,431 เว็บไซด์ คิดเป็น 11% ตามลำดับ ซึ่งการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคมาใช้บริการ นอกจากผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์แล้ว กรมยังได้หารือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะ หากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจต้องพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ
ท้ายนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการเปิดตัวโครงการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการในการรับงบการเงินเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการผ่านเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th > เลือก “การนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา ซึ่งสถิติการใช้งานระบบจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 549 ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 91 ราย และส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 1 ราย
ในโอกาสนี้กรมฯ ยังเพิ่มทางเลือกในการขอหนังสือรับรองให้ผู้ประกอบธุรกิจโดยเปิดให้บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตั้งแต่เปิดให้บริการจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 มีผู้มาใช้บริการ ทั้งสิ้น 53 คำขอ จำนวน 57 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง 39 คำขอ 42 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 14 คำขอ 15 ฉบับ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย