- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 07 June 2014 00:40
- Hits: 4296
พาณิชย์ เผย ผู้ผลิตสินค้า 205 รายการ พร้อมตรึงราคา ถึงสิ้นพ.ย.57
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน จำนวน 205 สินค้า เพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน จำนวน 205 สินค้า ยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการในการตรึงราคาสินค้าเป็นเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนพ.ย.57 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความเชื่อมั่นตามนโยบายของ คสช.
พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการตรึงราคาสินค้าเป็นมาตรการชั่วคราวระยะสั้น ในระยะยาวจะต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนสินค้าบางชนิดที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศซึ่งราคาเป็นไปตามตลาดโลกนั้น หากราคานำเข้าเพิ่มสูงขึ้น จะมีความจำเป็นต้องพิจารณาให้ปรับราคาสูงขึ้นเท่าที่จำเป็น ขณะเดียวกันจะต้องมีการกำกับดูแลราคาต้นน้ำและปลายน้ำที่จำหน่ายให้ผู้บริโภค เพื่อให้ราคาจำหน่ายปลีกไม่มีการปรับสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี วันนี้มีบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่เข้าร่วมประชุมด้วย 13 บริษัท คือ 1.บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟู้ดส์ จำกัด 2.บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด 3.บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) น้ำมันหล่อลื่น 5.บริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี่ จำกัด 6.บริษัท มี้ดจอนห์สัน นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 7.บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด 8.บริษัท คิมเบอร์ลี่ คล๊าค ประเทศไทย จำกัด 9.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ เซลล็อกซ์ จำกัด 10.บริษัท สายไฟฟ้าไทยยาซากิ จำกัด 11.บริษัท สายไฟฟ้าบางกอก เคเบิ้ล จำกัด 12. บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ 13.บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน)
โดยมี 20 สมาคมเข้าร่วมประชุมด้วย คือ 1.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2.สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 3.สมาคมผู้ผลิตสบู่ไทย สิ่งชำระล้าง และผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล 4.สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม 5.สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว 6.สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย 7.สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป 8.สมาคมโรงงานน้ำปลาแห่งประเทศไทย 9.สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย 10. สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย
11.สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย 12.สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย 13. สมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร 14.สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย 15.สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย 16.สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทย 17.สมาคมผู้ค้าปลีกไทย 18.กลุ่มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 19.กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กกล้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 20.กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ฯ
พาณิชย์ เผย 'โลตัส-บิ๊กซี-ท็อป'ให้ความร่วมมือไม่ขึ้นราคาอาหารจานเดียวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ถึงสิ้นพ.ย.นี้
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจากการที่ได้มีการประชุมหารือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีศูนย์อาหารและมีสาขาจำนวนมากทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้จำหน่าย อาหารปรุงสำเร็จตามราคาแนะนำ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายของคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 โดยได้เชิญห้างค้าปลีกสมัยใหม่รายใหญ่ 3 ราย ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นต์เตอร์ และห้างท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีสาขาที่มีศูนย์อาหารรวมทั้งสิ้น 306 สาขาทั่วประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยผลการประชุมดังกล่าวว่า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีศูนย์อาหารและมีสาขาจำนวนมากทั่วประเทศ ทั้ง 3 ราย ยินดีให้ความร่วมมือ ดังนี้
ลดราคาเมนูพิเศษใน Food Court จำนวน 10 รายการ ในราคาจาน/ชามละ 35-40 บาท ได้แก่
1) ข้าวไข่เจียว
2) ข้าวราดแกง 1 อย่าง
3) ข้าวราดแกง 2 อย่าง
4) ข้าวกระเพราหมู/ไก่
5) ข้าวผัดหมู/ไก่
6) ข้าวขาหมู
7) ก๋วยเตี๋ยวหมู/ไก่/ลูกชิ้นปลา
8) ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า
9) ผัดซีอิ้ว
10) ขนมจีนน้ำยา/แกงไก่ และไข่ดาวฟองละ 7– 8 บาท
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือ ไม่ขึ้นราคาอาหารจานเดียวเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2557
สำหรับรายการอาหารจานพิเศษธงฟ้าใน Food Court จานละ 30 บาท
- Big C เริ่ม 31 พ.ค. – 30 มิ.ย. 57 มี 26 เมนู (นอกเหนือจาก 10 รายการ)
- Tesco และ Tops เริ่มดำเนินการเดือน ก.ค.57
ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ทั้ง 3 ราย จะให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ และช่วยดูแลราคาเป็นอย่างดี