- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 06 February 2015 09:51
- Hits: 2947
ดันส่งออกสู่วาระชาติพณ.ชง 'บิ๊กตู่' จัดตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
บ้านเมือง " นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามผลการดำเนินงานกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์จะทำเรื่องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบจัดตั้ง คณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อยกระดับการแก้ปัญหาการส่งออกสินค้าไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ และผลักดันให้มูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้บรรลุตามเป้าหมายการขยายตัวที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ที่ 4% จากปี 57 คาดว่า นายกรัฐมนตรี จะเห็นชอบและจัดตั้งได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับ คณะกรรมการชุดนี้ จะประกอบด้วยตัวแทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ส่วนภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งระเทศไทย สมาคมผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ฯลฯ มีหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริม และผลักดันการส่งออกไทย รวมถึงแก้ปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เพราะปัจจุบันการส่งออกไทยมีปัญหามาก ซึ่งปัญหาบางอย่างเป็นปัญหาของหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ จำเป็นต้องให้ฝ่ายนโยบายสั่งการในการแก้ปัญหา แต่หากเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ก็สามารถสั่งการให้แก้ไขได้ทันที ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนมีปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ก็สามารถนำเสนอได้เช่นกัน
"ต้องยอมรับว่า การส่งออกไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงมากมาย โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังชะลอตัว และยังมีปัญหาจากภายในอีก เช่น ไทยผลิตสินค้าไม่ตรงตามความต้องการตลาด ผลิตสินค้าล้าสมัย ศักยภาพการแข่งขันด้านการส่งออกลดลง จึงต้องทำเรื่องส่งออกให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะกระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาคนเดียวไม่ได้แล้ว ต้องให้หลายหน่วยงานช่วยกัน ซึ่งคณะกรรมการจะช่วยกันกำหนดรูปแบบการส่งออก ยุทธศาสตร์การเข้าสู่ตลาด การแสวงหาวัตถุดิบ การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้การส่งออกไทยขยายตัวได้อย่างยั่งยืน"
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกปีนี้ขยายตัวที่ 4% จากปี 57 ตามเดิม ยังไม่ปรับลดเป้าหมายลงแน่นอน เพราะถือว่าเป็นเป้าหมายในการทำงาน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เป็นเป้าหมายที่ต้องพุ่งชนให้ได้ แม้หลายหน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชนได้ปรับลดการคาดการณ์ลงเหลือขยายตัวต่ำกว่า 4% อีกทั้งในปี 58 เพิ่งผ่านไปเพียง 1 เดือนเท่านั้น จึงยังมีเวลาเหลืออีกมากที่จะผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย
นางอภิรดี กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านควบคู่ไปกับการผลักดันการส่งออกในภาพรวม โดยปีนี้ ได้ตั้งเป้าหมายการค้าชายแดนขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% หรือมีมูลค่าการค้าไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งในปี 57 มีมูลค่า 1.15 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.พาณิชย์ไทยได้มีโอกาสหารือกับรมว.พาณิชย์เมียนมาร์ โดยไทยได้เสนอให้ 2 ประเทศเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็นไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาทภายใน 1-2 ปีนี้ นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 5-9 มี.ค.นี้ จะมีการหากับกระทรวงพาณิชย์ลาว ซึ่งจะเสนอให้มีการขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้นจากเดิม ส่วนระหว่างวันที่ 11-12 ก.พ.นี้ ตนจะนำคณะเดินทางไปอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามปัญหา อุปสรรค รวมถึงข้อเสนอแนะของภาคเอกชนใน 5 จังหวัดทางภาคใต้ เพื่อผลักดันเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์หน้า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเชิญผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ มาขอบคุณที่ให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมของขวัญปีใหม่ โดยขายสินค้าราคาถูกในช่วงปลายปี 57 นอกจากนี้ ยังจะสอบถามถึงการลดต้นทุนด้านต่างๆ ให้กับผู้ขายอาหารปรุงสำเร็จภายในศูนย์อาหารของห้างฯ ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งค่าเช่า ค่าส่วนแบ่งการขาย ค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น เพราะขณะนี้ต้นทุนค่ากระแสไฟฟ้าลดลงมาก จากการปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อให้ผู้ค้าอาหารปรุงสำเร็จสามารถขายอาหารได้ในราคาไม่แพงเกินไป และยังช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ราคาอาหารในศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งแพงเกินจริง เช่น ข้าวขาหมู เริ่มต้นจานละ 50 บาท ขาหมูเปล่า เริ่มต้นจานละ 80 บาท ก๋วยเตี๋ยว จานละ 45 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง จานละ 40 บาท เป็นต้น ทั้งที่ราคาภายนอกห้างฯ เริ่มต้นที่ 30 บาทเท่านั้น จึงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลให้ผู้ค้าขายในราคาที่เป็นธรรม