- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 04 February 2015 23:00
- Hits: 2082
พาณิชย์ ลั่นรายได้ SMEs พุ่ง 4.4 ล้าน ล.
บ้านเมือง : พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงาน SME Smart Day ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมเอสเอ็มอีอย่างยิ่ง โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดให้การสนับสนุนการพัฒนาสร้างขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี เพื่อพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเวทีโลกเป็น 1 ใน 4 ยุทธศาสตร์หลักของกระทรวง ที่จะต้องดำเนินการให้เห็นผลในปีนี้ ซึ่งได้ให้แนวปฏิบัติสำหรับยุทธศาสตร์ดังกล่าวว่าจำเป็นต้องดำเนินการบนพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ 1.ส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเป็นระบบนับแต่ระดับ รากหญ้าขึ้นมาเพื่อสร้างเครือข่ายที่มีพลังช่วยกันผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์ต่อเอสเอ็มอี
2.สนับสนุนการพัฒนาสั่งสมองค์ความรู้และทักษะในทุกด้าน เพื่อให้ก้าวทันโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ โดยเฉพาะการแปรเปลี่ยนภูมิปัญญาและนวัตกรรม ให้เป็นสินค้าและบริการในเชิงพาณิชย์ที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภค 3.สนับสนุนการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่เป็นคู่ค้า และมีศักยภาพที่จะร่วมมือและเกื้อหนุนระหว่างกัน ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีพลัง
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าว่า ในปีนี้จะเพิ่มรายได้ให้แก่เอสเอ็มอี ปีนี้มีมูลค่ารวมกว่า ถึง 4.4 ล้านล้านบาทหรือ 37.4% ของจีดีพีรวมของประเทศ โดยเพิ่มขึ้น จาก 2.2 ล้านล้านบาท เมื่อปี 2546 หรือ เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวใน 10 ปี นอกจากนี้ มูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอี ปัจจุบันยังคิดเป็น 25.5% ของมูลค่าส่งออกรวมของประเทศและยังมีศักยภาพที่จะเจริญเติบโตได้อีกมาก
"เชื่อว่าการที่เศรษฐกิจไทยจะพัฒนาก้าวหน้าต่อไปในเวทีโลกด้วยความสำเร็จ จำเป็นต้องอาศัย SME ไทยที่มีความเข้มแข็งและสามารถพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดหรือ Smart SME ดังนั้น การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ SME จึงเป็นวาระงานที่สำคัญยิ่งของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีนี้" พล.อ. ฉัตรชัย กล่าว
นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายแลยุทธศาสตร์การค้าได้วิเคราะห์ผลจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่องให้ทราบว่าการที่ในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลดลงมาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือประมาณ 60% จากช่วงสูงสุดเดือนเมื่อมิถุนายน 2557 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล