- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 03 February 2015 22:09
- Hits: 2093
ส.ผู้ส่งออกข้าวไทยหวั่นถูกแย่งตลาด ชี้ภัยแล้งฉุดผลผลิตฮวบ
แนวหน้า : ร้อยตำรวจโท เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าวได้ 10.969 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 65.9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,440 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 174,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6% ซึ่งในปีที่ผ่านมาราคาข้าวไทยลดลงมาใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่ง ส่งผลให้ผู้ส่งออกสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ อีกทั้งความต้องการข้าวไทยในตลาดมีมากด้วย แต่ทั้งนี้ข้าวหอมมะลิก็ส่งออกได้เพียง 1.87 ล้านตัน ลดลง 2.4% เนื่องจากข้าวหอมมะลิ ออกมาในช่วงที่มีโครงการรับจำนำ ทำให้ช่วงนั้นข้าวหอมมะลิมีราคาสูง ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเดียวกับผลผลิตข้าว กัมพูชา เวียดนาม ออกมาจำนวนมาก ซึ่งมีราคาถูกกว่า จึงเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจากไทยไป
สำหรับ ในปี 2558 สมาคมฯ คาดว่าจะส่งออกข้าวได้ที่ 10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,950 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 161,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปีก่อน และต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ 10-11 ล้านตัน และต่ำกว่าที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ(USDA) คาดว่าไทยจะส่งออกได้ 11.3 ล้านตัน เนื่องจากไทยยังมีปัจจัยลบหลายอย่าง สถานการณ์ข้าวไทยเริ่มกลับมาอยู่ในกลไกปกติ สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ ประกอบกับประเทศคู่แข่งอย่าง เวียดนาม กัมพูชา เริ่มหาช่องทางขายข้าว ปรับลดราคาข้าวลงต่ำเพื่อเข้ามาแข่งกับไทย และเข้ามาแย่งตลาดของไทยมากขึ้น ราคาข้าวไทยจึงเริ่มขยับตัวขึ้นมาสูงกว่าประเทศคู่แข่ง ทำให้ข้าวไทยขายยากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไทยจะยังเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ซึ่งปีนี้อินเดียน่าจะส่งออกข้าวได้ลดลง เพราะผลผลิตน้อย และมีปริมาณข้าวในสต็อกลดลง แต่ทั้งนี้ก็ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงด้วย เพราะอาจส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศผู้นำเข้าหลักๆ ในแถบแอฟริกา และตะวันออกกลาง
“เมื่อประเทศคู่แข่งเห็นว่าไทยกลับเข้าสู่สนามแข่งขันจึงพากันปรับลดราคาข้าวลง โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม ซึ่งต้องยอมรับว่าข้าวคู่แข่งมีราคาต่ำกว่าข้าวไทยพอสมควร อีกทั้งสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ทำให้ข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง โดยราคา FOB ข้าวขาว 5% ของไทยในตลาดโลกปัจจุบันอยู่ที่ 405-410 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวขาวเวียดนามอยู่ที่ 355 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งราคาแตกต่างกันถึง 40 - 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้คู่ค้าหันไปซื้อข้าวจากเวียดนามมากขึ้น ในขณะที่เมื่อเทียบกับปีก่อนราคาข้าวไทยถูกที่สุด ถูกกว่าเวียดนาม 20 -30 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนด้านปากีสถานและอินเดียปัจจุบัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 370 เหรียญสหรัฐต่อตัน และคาดว่าราคาข้าวในปีนี้แนวโน้มราคาข้าวโอกาสที่จะปรับขึ้นสูงนั้นยาก และ อาจจะมีโอกาสปรับลงได้”
สำหรับ สถานการณ์ผลผลิตข้าวของโลกนั้น กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าจะมีปริมาณ 475.5 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งลดลง 0.3% ขณะที่ความต้องการบริโภคจะมีประมาณ 483.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.6% และยังมองว่า ไทยจะเป็นผู้ส่งออกข้าวได้มากสุดของโลกที่ 11.3 ล้านตัน รองลงมาคือ อินเดีย ปริมาณ 8.7 ล้านตัน เวียดนาม 6.7 ล้านตัน ปากีสถาน 3.9 ล้านตัน และสหรัฐฯ 3.4 ล้านตันตามลำดับ ส่วนผู้นำเข้าอันดับ 1 คือ จีน 4.3 ล้านตัน รองลงมา คือ ไนจีเรีย 3.5 ล้านตัน ฟิลิปปินส์ 1.7 ล้านตัน อิหร่าน 1.7 ล้านตัน และอิรัก 1.5 ล้านตัน
“ในส่วนของผลผลิตข้าวไทยในปีนี้ มองว่า จากปัญหาภัยแล้งและปัจจัยอื่นๆ น่าจะทำให้ผลผลิตข้าวนาปรังของไทยลดลงประมาณ 30% หรือจะเหลือเพียง 6-7 ล้านตัน จากปกติ 8-10 ล้านตัน เนื่องจากชาวนาไม่มีแรงจูงใจในการทำนา ทั้งเรื่องของราคาขายต่ำ ต้นทุนสูง เพราะเป็นช่วงหน้าแล้ง ซึ่งการที่ผลผลิตข้าวหายไปมีทั้งผลดีที่จะทำให้การแข่งขันของไทยได้เปรียบในตลาดโลก เพราะไทยยังมีข้าวในสต็อกของรัฐอยู่ และเป็นช่วงที่รัฐบาลมีโอกาสที่ดีในการระบายข้าว แต่ก็จะส่งผลเสียต่อรายได้เกษตรกรในประเทศด้วย ส่วนนาปีก็ต้องรอดูสถานการณ์ของฝน แหล่งน้ำว่าจะมีเพียงพอหรือไม่”
ส.ผู้ส่งออกฯ คาดส่งออกข้าวไทยปีนี้ 10 ล้านตันต่ำกว่าปี 57 ที่ 11 ล้านตัน
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดการณ์ว่า การส่งออกข้าวไทยในปี 58 จะมีปริมาณ 10 ล้านตัน มูลค่า 4,950 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 161,000 ล้านบาท จากปี 57 ที่มีปริมาณส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11 ล้านตัน ซึ่งทำให้ไทยกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก
สำหรับ สาเหตุที่ทำให้คาดว่าการส่งออกข้าวปี 58 จะได้เพียง 10 ล้านตัน เพราะการแข่งขันของตลาดข้าวรุนแรงมากขึ้น โดยขณะนี้ผู้ส่งออกข้าวที่เป็นคู่แข่งของไทยต่างลดราคาขายลงมาต่ำกว่าข้าวไทย
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (ยูเอสดีเอ) ที่ประเมินปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวได้ 11.3 ล้านตัน สูงกว่าอินเดียที่คาดว่าจะส่งออก 8.7 ล้านตัน และเวียดนาม 6.7 ล้านตัน
ในขณะที่สถานการณ์ราคาข้าวไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จากปี 57 ที่ราคาข้าวไทยต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามามาก โดยปัจจุบันราคาข้าวขาว 5% เวียดนามตันละ 355 เหรียญสหรัฐฯ อินเดียตันละ 380 เหรียญสหรัฐฯ ปากีสถานตันละ 370 เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ของไทยตันละ 405-410 เหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ข้าวไทยยังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งส่งออกข้าวคือเวียดนาม ที่ลดค่าเงินลง 2 ครั้งๆ ละ 1% ทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าเวียดนาม 2%, ปัญหาราคาน้ำมันลดลงทำให้ประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ของไทยอย่างเช่นไนจีเรีย ที่ปกติซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตันมีกำลังซื้อลดลง อีกทั้งสต๊อกข้าวรัฐบาลไทยที่มีมากถึง 17 ล้านตัน ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลในการบริหารจัดการ หากระบายออกมากจะกระทบกับราคาข้าวที่เป็นผลผลิตใหม่ แต่หากไม่ระบาย รัฐบาลต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลเก็บรักษาสูงมาก ซึ่งเอกชนมีความลำบากใจในเรื่องราคา ที่ข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งมาก หากลดราคาส่งออกลงมา จะทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศต้องปรับลดลงด้วย และอาจต่ำกว่าตันละ 8,000
อินโฟเควสท์