- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 03 February 2015 22:08
- Hits: 2034
พาณิชย์ ชี้ภาคขนส่ง เกษตร รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิ่งมากสุด แต่ภาคอุตฯ ได้ประโยชน์น้อย เหตุใช้แต่ไฟฟ้า - ก๊าซธรรมชาติ
นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึง กล่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงว่า ภาคการผลิตที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจบริการขนส่ง ซึ่งมีต้นทุนน้ำมันในสัดส่วนที่สูง ได้แก่ การขนส่งทางบก การขนส่งทางเรือ และการขนส่งทางอากาศ ตามลำดับ โดยการขนส่งทางบกมีต้นทุนน้ำมันประมาณ 40-50% ของต้นทุนรวม การขนส่งทางอากาศ มีต้นทุนน้ำมันเป็นสัดส่วนประมาณ 30-40% ของต้นทุนรวม และการขนส่งทางเรือมีต้นทุนน้ำมันประมาณ 20-25% ของต้นทุนรวม
ส่วนภาคการผลิตที่ได้รับประโยชน์รองลงมาคือภาคการเกษตร ซึ่งจะมีต้นทุนการผลิตสินค้าทางการเกษตรลดลง ส่งผลให้มีผลผลิตการเกษตรและส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อ้อย ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ตามลำดับ โดยสินค้าเหล่านี้มีต้นทุนน้ำมันประมาณ 8-10 % ของต้นทุนรวม
อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลบวกจากการลดลงของราคาน้ำมันค่อนข้างน้อย เนื่องจากพลังงานที่ภาคอุตสาหกรรมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานจากไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 70 % ของการใช้พลังงานรวม โดยอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากการลดลงของราคาน้ำมัน ได้แก่ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า การผลิตผลิตภัณฑ์โลหะที่มิใช่เหล็ก ซึ่งมีต้นทุนน้ำมันประมาณ 1.5-2.0 % ของต้นทุนรวม
สำหรับ ผลลบต่อไทยนั้นการส่งออกไปยังตลาดผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ เช่น ตะวันออกกลางและรัสเซีย อาจจะได้รับผลกระทบโดยเฉพาะรถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แต่ผลกระทบอาจไม่มาก เนื่องจากตลาดเหล่านี้มีสัดส่วนในการส่งออกรวมของไทยเพียงร้อยละ 6
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย